ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,626.96 จุด เพิ่มขึ้น 9.41 จุด (+0.58%) มูลค่าการซื้อขายราว 17,936.05 ล้านบาท
การซื้อขายในช่วงเช้านี้ ดัชนีปรับตัวขึ้น ทำระดับสูงสุด 1,629.26 จุด และต่ำสุด 1,619.69 จุด
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นแรง 10 จุด หลักๆ มาจากแรงซื้อเก็งกำไรในกลายกลุ่ม และตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐ ปิดทำการ ทำให้ไม่มีปัจจัยลบจากต่างประเทศ เพราะนักลงทุนต่างประเทศหยุดเทรดแล้ว
ขณะที่จีนเดินหน้าเปิดเมืองหลังจากหยุดรายงานผู้ติดเชื้อโควิดใหม่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณมีโอกาสเปิดเมืองต่อเนื่อง
ส่วนในประเทศมีแรงซื้อจากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่นักลงทุนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปลายปี ทำให้มีแรงซื้อหุ้นขนาดกลางและใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบัน ทำให้ตลาดปรับขึ้นค่อนข้างแรง
นอกจากนี้มีแรงซื้อในกลุ่มน้ำตาลตอบรับปริมาณหีบอ้อยที่เริ่มพ.ย.-เม.ย. ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น และราคาน้ำตาลโลกปรับขึ้น แตะ 20 เซ็นต์/ปอนด์ จากบราซิลและอินเดีย ส่งออกชะลอ ทำให้ราคาน้ำตาลโลกปรับสูงขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นกลุ่มน้ำตาลต่ำกว่า Book value ทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามา
แนวโน้มตลาดหุ้นช่วงบ่าย นายกิจพล คาดว่าตลาดน่าจะยังบวกได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าระหว่างจันทร์-พุธ (26-28 ธ.ค.) ตลาดน่าจะยืนในโซนบวก ที่มาจากแรงซื้อหลักจากเม็ดเงินกองทุน RMF และ SSF
ให้กรอบหุ้นไทยสัปดาห์นี้ที่ 1,600-1,640 จุด ส่วนบ่ายนี้คาดว่าบวกขึ้นจากช่วงเช้ามากกว่า 5 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,546.47 ล้านบาท ปิดที่ 720.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,109.57 ล้านบาท ปิดที่ 192.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 739.90 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 654.39 ล้านบาท ปิดที่ 173.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 567.30 ล้านบาท ปิดที่ 13.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง