นายจักร จามิกรณ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สวนอุตสาหกรรม วินโคสท์ (WIN) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 65 รายได้รวมปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจเช่าพื้นที่คลังสินค้าที่มีการใช้บริการเช่าพื้นที่คลังสินค้าสูงถึง 77% ของพื้นที่ทั้งหมด และธุรกิจการติดตั้งและพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ที่ได้บรรลุข้อตกลง และลงนามสัญญารับเหมาก่อสร้าง (EPC) เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เพิ่มเติมอีก 2 สัญญา ดังนั้นภาพรวมของการดำเนินธุรกิจได้รับปัจจัยบวก สอดรับกับทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
"การเติบโตของบริษัทจะสอดรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งปี 65 รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่ม ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องฟื้นตัว ซึ่งเป็นแรงหนุนกำลังซื้อภายในประเทศเพิ่ม ประกอบกับการส่งออกยังโตต่อเนื่องและรัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเป็นระยะๆ จึงทำให้เศรษฐกิจไทยปี 65 สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ราว 3.2% ขณะที่ปี 66 กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะโตได้ 3.7% จากปี 65 ที่คาดการณ์ว่าโต 2.8% ซึ่งเป็นส่วนสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรมการผลิตและภาคการค้าระหว่างประเทศ"
สำหรับการดำเนินธุรกิจปี 66 นายจักร กล่าวว่า บริษัทยังมั่นใจว่าเติบโตต่อเนื่องตามทิศทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการให้เช่าพื้นที่คลังสินค้าในเขตปลอดอากรและคลังทั่วไป คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.5% ต่อปี โดยเฉพาะพื้นที่ทำเลทอง เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ที่บริษัทมีความสามารถในการขยายพื้นที่เช่า และ อัตราการเช่าได้อย่างต่อเนื่องจากปี 65 ส่งผลให้อัตราค่าเช่าที่ดีกว่าค่าเช่าเฉลี่ยในตลาด โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/65 มียอดเช่าคลังสินค้าในเขตพื้นที่ปลอดอากร และพื้นที่ทั่วไปแตะเฉลี่ย 80% ของพื้นที่ทั้งหมดทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
ประกอบกับการเช่าพื้นที่คลังสินค้ายังได้รับอานิสงส์จากธุรกิจการค้าออนไลน์และโลจิสติกส์ที่เติบโตซึ่งคาดว่าตลาด e-Commerce จะเติบโตเฉลี่ย 20-25% ต่อปี ทำให้มีการเช่าใช้พื้นที่เพื่อรวบรวมสต็อกสินค้าก่อนส่งมอบ ส่วนการลงทุนพื้นที่คลังสินค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.0% ต่อปี เป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่ไม่สอดรับกับความต้องการตลาด ส่งผลให้อัตราค่าเช่าพื้นที่สามารถปรับขึ้นได้ระดับเฉลี่ย 85-86%
อย่างไรก็ตาม ภาวะการแข่งขันของตลาดผู้ให้เช่าคลังสินค้า จะมีปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงดูดผู้เช่า โดยวางแผนลงทุนคลังสินค้าสมัยใหม่ ในรูปแบบการพัฒนาพื้นที่อาคารคลังสินค้าตามความเหมาะสม (Build-to-suit) และคลังสินค้าสำเร็จรูป (Ready-built warehouse) โดยมีการลงทุนนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการมากขึ้น เช่น การจัดเก็บสินค้าด้วยหุ่นยนต์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับขึ้นค่าเช่าได้ง่ายขึ้น และการทำสัญญาจะยาวนานกว่าคลังสำเร็จรูปในแบบดั้งเดิม
นายจักร กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ได้มีการขยายงานโดยได้สัญญาเพิ่มเติมอีก 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาติดตั้งในโครงการของ บริษัท ทีซีเคโซลาริส จำกัด ขนาดกำลังผลิต 6.468 เมกกะวัตต์ มูลค่า 158.49 ล้านบาทโดยจะเดินหน้าตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.65-30 มิ.ย.66 สัญญาติดตั้งให้กับโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยเฟส 2 เริ่มก่อสร้างและส่งมอบงานงวดแรกเดือน ธ.ค.65 และจบโครงการไตรมาส 1/66 และสัญญาก่อสร้างโรงไฟฟ้าให้แก่วัดคุณพุ่ม จังหวัดพิจิตร ซึ่งได้จ่ายไฟฟ้าแล้ว
ในปีนี้บริษัทฯปิดสัญญา EPC 10 โครงการ และยังคงดำเนินการร่วมพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กับททบ 5 เฟส 2-5 และ สถานีโครงข่ายปี 66 ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯรับรู้รายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
"จากอัตราค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้การติดตั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นพลังงานที่มีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ทำให้ภาคการผลิตสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวและยังตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาดให้กับองค์กรภาคเอกชนต่างๆ เพื่อที่จะเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์หรือ Net Zero" นายจักร กล่าว