นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบแคบ หลังจากดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากตอบรับปัจจัยจากจีนจะมีการเปิดประเทศในต้นเดือนม.ค.นี้ ไปมากแล้ว ขณะที่นักลงทุนจะเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงใกล้หยุดเทศกาลปีใหม่ ทำให้มูลค่าการซื้อขายจะเริ่มเบาบางลง
นอกจากนี้อาจจะมีแรงกดดันจากการเปลี่ยนซีรีย์ของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ทำให้อาจจะเป็นแรงกดดันต่อดัชนีได้บ้าง ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้
โดยให้เนวต้าน 1,650-1,655 จุด แนวรับ 1,635-1,640 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,875.71 จุด ร่วงลง 365.85 จุด หรือ -1.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,783.22 จุด ลดลง 46.03 จุด หรือ -1.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,213.29 จุด ลดลง 139.94 จุด หรือ -1.35%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,074.90 จุด ลดลง 265.6 จุด หรือ -1.01%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,648.40 จุด ลดลง 250.51 จุด หรือ -1.26% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,076.73 จุด ลดลง 10.67 จุด หรือ -0.35%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ธ.ค.65) 1,647.28 จุด เพิ่มขึ้น 4.12 จุด, +0.25%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,653.56 ลบ.เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (28 ธ.ค.) ลดลง 57 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 78.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ธ.ค.) อยู่ที่ 10.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.72 ทรงตัว ไร้ปัจจัยใหม่ จับตาสถานการณ์โควิดจีนหลังเปิดปท.
- สมาคมธนาคารไทย ประกาศสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ โดยจะเริ่มกลับไปเก็บอัตราเต็มเพดานที่ 0.46% ตั้งแต่ 1 ม.ค.66 ส่งผลแบงก์ต้องทยอยปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.40% "กรุงไทย" ชี้แนวโน้มดอกเบี้ยขึ้น บวกต้นทุนจากเอฟไอดีเอฟ อาจทำให้ต้องขยับดอกเบี้ยเพิ่ม 0.40-0.60% หวั่นกลุ่มเปราะบางกระทบ เร่งหามาตรการช่วยเหลือ
- "สุพัฒนพงษ์" เปิดโต๊ะเจรจา กกร.หาข้อสรุปขึ้นค่าไฟฟ้าวันนี้ กกพ.ยืนยันลดค่าไฟภาคธุรกิจลงจากเดิม ส.อ.ท.ยอมรับสภาพต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น ชี้รัฐไม่ได้นำข้อเสนอเอกชนมาพิจารณา พร้อมเดินหน้าหารืทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาระยะยาวที่ถูกจุด ห่วงค่าไฟรอบใหม่หลังจากนี้หาก "พลังงาน" ยังคงใช้นโยบายแก้ปัญหาในแบบเดิม สศอ.เผยอุตสาหกรรมเหล็กต้นทุนพุ่งมากสุด
- "สาธารณสุข-คมนาคม-ท่องเที่ยวฯ" นัดประชุมร่วม 5 ม.ค.2566 ถกมาตรการเตรียมความพร้อมต้อนรับ "นักท่องเที่ยวจีน" หลังเปิดประเทศ เลิกมาตรการกักตัว "พิพัฒน์" ชงจัดโปรโมชั่น "ฉีดวัคซีน เข็มกระตุ้นฟรี" นักท่องเที่ยวทุกชาติ เพิ่มยอดจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ แจงคุ้มค่ากับต้นทุนวัคซีนหลักร้อยบาท ด้าน "ททท." ประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกับภาคเอกชน คาดไตรมาส 1 ปีหน้า จีนเที่ยวไทย 3 แสนคน ย้ำแนวทาง ไม่เลือกปฏิบัติ ใช้แนวทางเดียวกับชาติอื่นๆ ไม่เสี่ยงกลับไประบาดซ้ำ
- บิ๊กตู่" นั่งหัวโต๊ะถกบอร์ดอีอีซี เคาะเลือก "จุฬา สุขมานพ" นั่งเลขาธิการอีอีซีคนใหม่ แทน "คณิศ" ที่หมดวาระ โชว์ 4 โครงสร้างพื้นฐานหลักก้าวหน้าตามแผนที่วางไว้ ทั้งรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง แถมอนุมัติ เงินลงทุนอีอีซีเกินเป้าหมาย ดันเป็นฐานผลิตรถ EV สำเร็จ
*หุ้นเด่นวันนี้
- DOHOME (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 17.8 บาท ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" จาก "ถือ" ด้วย TP ใหม่ที่ 17.8 บาท จาก 11.8 บาท แม้งวดไตรมาส 4/65 SSSG พลิกเป็นติดลบ 8-9% แต่คาด GPM จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ ขณะที่กำไรปกติยังถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายและการตั้งสำรอง แต่ประเมินจะเป็นจุดต่ำสุดและสะท้อนในราคาแล้ว มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวชัดเจนและแข็งแกร่งในปี 66 หนุนจาก 1.)คาดรายได้ภาคเกษตรทรงตัว 2.) เข้าไฮซีซั่นกิจกรรมก่อสร้างในไตรมาส 1/66 ประเมินราคาเหล็กคาดจะสูงขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นจากเงินบาทแข็งค่าและค่าขนส่งลดลง
- AOT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท คาดหวังเชิงบวกนักท่องเที่ยวปี 66 อาจสูงกว่า 20 ล้านคน หลังจีนเปิดประเทศตั้งแต่ 8 ม.ค.66 เร็วกว่าคาด แนวโน้ม Q1 ปี 65/66 ฟื้นต่อเนื่องหลังโควิดคลี่คลายไปมาก รัฐบาลไทยและประเทศต่างๆ ปรับมาตรการเดินทางส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ปี 65/66 (ต.ค.65-ก.ย.66) คาดพลิกกำไรสุทธิ 1 หมื่นล้านบาทภายใต้สมมติฐาน 6.6 แสนเที่ยวบิน +69%YoY ผู้โดยสารรวม 95.7 ล้านคน +105%YoY ขณะที่มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าและสายการบินจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.66 ทำให้ King power จะเริ่มจ่าย Minimum Guarantee ตามสัญญา Duty Free ฉบับใหม่ ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ในช่วง H2 งวดปี 65/66
- BDMS (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 31.00 บาท ได้ประโยชน์จาก Peak Season นักท่องเที่ยว+ผู้ป่วยต่างชาติหนุนรายได้ไตรมาส 4/65-ไตรมาส 1/66 ล่าสุดรัฐปรับประมาณการนักท่องเที่ยวปี 66 จากเดิม 20 เป็น 25 ล้านคน และเก็งต่างชาติทยอยซื้อกลับหุ้นไทยหลังบรรยากาศลงทุนดีขึ้น ประเมินผู้ป่วยต่างชาติกลุ่มตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุฯ มีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังไทย-ซาอุฟื้นความสัมพันธ์ DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 1.27 หมื่น ลบ.และ 1.3 หมื่น ลบ. +60%YoY, +3%YoY