Crypto Meetup Thailand อีกหนึ่งกิจกรรมของชาวคริปโทฯ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน นำเสนอมุมมองเรื่อง "Crypto กับ แชร์ลูกโซ่ มีสิ่งที่เหมือนกัน อย่างที่เราไม่คาดคิด!!"
แน่นอนหากพูดถึง Cryptocurrency หรือว่าสินทรัพย์ดิจิทัล ทุกคนรู้ว่า คริปโทฯ เป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน อันเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้าเปลี่ยนแปลงโลก ต่อจากยุคของอินเทอร์เน็ต แต่จากที่ผ่านมา มักเห็นว่ามีโครงการมากมายที่เริ่มต้นมาก็ทรงดี แต่พอนานไปโปรเจ็คต์ก็เริ่มมีปัญหา ถ้าไม่เป็น Scam ก็โดน Hack หรือกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะความผิดพลาดในโปรเจ็คต์และเหตุการณ์เชิงลบต่าง ๆ ทำให้ผู้คนในอุตสาหกรรม ทั้งนักลงทุน นักพัฒนา (Developer) หรือแม้แต่กองทุนต่าง ๆ ทยอยหมดความเชื่อมั่น ในสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมกับตั้งคำถามว่า Cryptocurrency จะกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือว่าจะเหมือนกับแชร์ลูกโซ่หรือไม่!?
Cryptocurrency คลื่นลูกใหม่ที่เข้ามาปฏิวัติวิธีการคิดและวิธีการใช้เงิน ประกอบกับลักษณะการกระจายอำนาจ (Decentralized) และการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้มีศักยภาพเพิ่มการเข้าถึงทางการเงิน ลดต้นทุนการทำธุรกรรม และให้ความปลอดภัยและความโปร่งใสที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าไม่ใช่ทุกโปรเจ็คต์ที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency จะผิดกฎหมาย เพราะในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็มีการหลอกลวง และแสวงหาผลประโยชน์จากนักลงทุน เหมือนกับแชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) ที่มักจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนก่อนหน้าด้วยเงินลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ แทนที่จะจ่ายจากผลกำไรที่เกิดขึ้นจริง ไม่ต่างอะไรกับแชร์ลูกโซ่ที่คนเข้าทีหลังมักเป็นเหยื่อเสมอ
นางสาวฟรานเชสก้า รุสโซ่ ผู้ก่อตั้ง Crypto Meetup Thailand คอมมูนิตี้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้าน คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ให้ความเห็นว่า สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังและตรวจสอบแต่ละโปรเจ็คต์ให้ดี เมื่อจะลงทุนในโปรเจ็คต์ใด หรือว่าเหรียญใด ซึ่งอาจรวมถึงทีมนักพัฒนาและผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจ็คต์นั้น ๆ ควรทำความเข้าใจในการลงทุนและความเสี่ยงที่อาจได้รับ เพราะมีหลายโปรเจ็คต์ที่ถูกกฎหมายและใช้นวัตกรรมที่กำลังพัฒนาโดยใช้ Cryptocurrency และเทคโนโลยี Blockchain
สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ หมั่น "Do Your Own Research" สิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันนักลงทุนจากแชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) และทำให้เปิดประตูโอกาส เป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนกับ Cryptocurrency
ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ขึ้นอยู่กับว่า "มองในมุมมองไหน" หากมองในมุมมองของนักลงทุน ที่หวังผลตอบแทนเป็นที่ตั้ง นักลงทุนก็ไม่ควรที่จะเอาตัวเองไปผูกพันกับโปรเจกต์ต่าง ๆ จนเกินไป ควรรู้จังหวะในการทำกำไรจากเหรียญต่าง ๆ หรือที่มักเรียกว่า "รู้ว่าจะเข้าหรือว่าออกตอนไหน"
แต่หากเรามองในมุมมองจากฝั่งนักพัฒนา หรือว่า Developer ที่มองนวัตกรรมและการเติบโตของโปรเจ็คต์เป็นสำคัญ ก็ควรยึดมั่นในโปรเจ็คต์นั้น ๆ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโปรเจ็คต์ต่าง ๆ อย่างแท้จริง