บล.พาย (Pi) ประเมินกรอบดัชนี SET สัปดาห์อรกของปี 66 ที่ 1,650-1,675 จุด เชิงกลยุทธ์ลงทุนเน้นเพียง Trading เนื่องจากตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปมากแล้ว และ Valuation ไม่ถูก เน้นหุ้นยังขึ้นน้อย ได้แก่ กลุ่มแบงก์ (BBL KBANK SCB TTB) กลุ่มค้าปลีก (BJC HMPRO) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC INTUCH) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC RATCH)
ส่วนปรากฎการณ์ January Effect แม้สถิติบอกไว้ว่าในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาผลตอบแทนตลาดหุ้นเดือน ม.ค. จะเป็นบวกถึง 18 ปี แต่อีก 12 ปีให้ผลตอบแทนติดลบ หรือคิดเป็นความน่าจะเป็น 60% ก็ถือว่าค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาลงไปจะพบว่าหากปีไหนที่เดือนธ.ค.ปรับขึ้นมาแล้ว โอกาสที่เดือนม.ค.จะปรับขึ้นต่อเริ่มน้อยลง โดยปีที่ ธ.ค ปรับขึ้น และ ม.ค.ปรับขึ้น ได้แก่ช่วง Dec 92 Jan 93, Dec 95 Jan 96 , Dec 01 Jan 02 , Dec 04 Jan 05 , Dec 11 Jan 12 , Dec 12 Jan 13 , Dec 16 Jan 17 , Dec 17 Jan 18 , Dec 20 Jan 21 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่าตลาดหุ้นมักอยู่โซนล่างและเป็นช่วงที่ Valuation ไม่แพง
แต่ปี 65 ในเดือน ธ.ค. SET ปรับขึ้นมา 2% และ Valuation ปัจจุบันไม่ถูกเท่าใดนัก จึงคาดหวัง January Effect ไม่ได้มากในปี 66
บล.พาย ระบุว่า สถานการณ์ในตลาดต่างประเทศ ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปรับลดลง 0.22% ภาพรวมเป็นเพียงแรงขายปกติ ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 2.9% หนุนจากรายงานที่ว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯลดลง โดยสัปดาห์นี้เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนจะเริ่มกลับมาใกล้เคียงภาวะปกติ
ส่วนปัจจัยในประเทศ ได้แก่ เงินเฟ้อไทยประจำเดือนธ.ค. 65 ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี ซึ่ง Bloomberg คาดไว้ที่ 5.9%YoY หากต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นรวมถึงทิศทางของค่าเงินบาทให้คงการแข็งค่าต่อไป
ขณะที่ต่างประเทศจะเน้นที่ในวันพุธกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐฯจากสถาบัน ISM Bloomberg คาดการณ์ที่ 48.6 หากออกมาเป็นไปตามคาดก็เท่ากับว่าลดลงจากเดือนก่อนและลดลงติดต่อกันแล้วเป็นระยะเวลา 1 ปี สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐย่ำแย่ และวันเดียวกันจะมีการรายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในสหรัฐฯ Bloomberg คาดไว้ที่ 10.1 ล้านตำแหน่ง, วันศุกร์กับภาคแรงงานสหรัฐฯ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯไว้ที่ 2 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 3.7%
เช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei ยังคงปิดทำการเนื่องในวันหยุดปีใหม่