บลจ.ทิสโก้ เสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล คอนเซอเวทีฟ อินคัม (TGCINC) กองทุนรวมผสม ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น เป็นต้น และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด บลจ.ทิสโก้แบ่งกองทุน TGCINC ออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดหน่วยลงทุนสะสมผลตอบแทน (TGCINC-A) และ ชนิดหน่วยลงทุนรับซื้อคืนอัตโนมัติ (TGCINC-R) เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 6-16 มกราคม 2566
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า เบื้องต้นกองทุนเปิด TGCINC จะลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศประมาณ 80% รองลงมาคือกองทุนรวมหุ้นทั่วโลก 10% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทั้งไทยและต่างประเทศประมาณ 10% ในส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศที่ บลจ.ทิสโก้เลือกจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูง
"จุดเด่นของกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล คอนเซอเวทีฟ อินคัม คือ เป็นกองทุนที่ครบเครื่องในกองทุนเดียว เหมาะกับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้บ้าง หรืออาจจะรับความเสี่ยงได้แต่ยังคงมีความกังวลกับสภาวะตลาด แต่ก็ไม่อยากเสียโอกาสเนื่องจากระดับราคาหุ้นโลกปรับฐานลงมาต่ำ อยากเริ่มสะสมหุ้นเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการฝากเงินหรือลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังไม่ต้องการความผันผวนมากนัก เพราะกองทุนนี้มีนโยบายลงทุนทั้งตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ทั่วโลก เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างมีเสถียรภาพ ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสมในช่วงตลาดผันผวน นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังสามารถปรับเปลี่ยนกองทุนและปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตามดุลยพินิจของบริษัทจัดการ ตามความเหมาะสมของสภาวการณ์ในแต่ละขณะ" นายสาห์รัช กล่าว
นายสาห์รัช กล่าวว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจทั่วโลกมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ ความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่ในปีนี้นักลงทุนมีโอกาสได้รับทั้งดอกเบี้ย และผลตอบแทนจากส่วนต่างราคากรณีผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มปรับตัวลง เนื่องจาก การดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางในประเทศหลักๆ เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายวัฏจักรแล้ว
อย่างไรก็ตาม บลจ.ทิสโก้ยังมองว่าการลงทุนในหุ้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับพอร์ตการลงทุน แม้ว่าจะเจอปัจจัยลบจากกำไรบริษัทจดทะเบียนที่อาจเติบโตช้าลงหากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่หากเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีงบการเงินที่แข็งแกร่งก็อาจจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับพอร์ตได้