บมจ.วีจีไอ (VGI) น่าจะเริ่มพลิกฟื้นได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 งวดปี 66 (ต.ค.-ธ.ค.65) เป็นต้นไป หลังจากขาดทุนจากธุรกิจหลักติดต่อกันมาหลายไตรมาส โดยจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในธุรกิจสื่อนอกบ้าน (OOH) นอกจากนี้ จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหนุนอัตราใช้สื่อพุ่ง
บล.กรุงศรี มองว่า VGI เป็นหุ้น laggard ทั้งในแง่ของผลการดำเนินงาน และราคาหุ้นเมื่อเทียบกับ PLANB โดยหลังจากบริษัทมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลักติดต่อกันมาหลายไตรมาส คาดว่าบริษัทน่าจะเริ่มพลิกฟื้นได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 งวดปี 66 เป็นต้นไป ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในธุรกิจ OOH นอกจากนี้ จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่า utilization rate (UR) จะเพิ่มขึ้นเป็น 55% ในไตรมาสนี้ จาก 41% ในไตรมาส 2 ของงวดปี 66
UR ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจ view on out-of home (OOH) จะทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสนี้ เราเริ่มจากแนวคิดว่ามีสหสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS กับ UR ในธุรกิจสื่อของ VGI แต่เราพบว่านอกจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแล้ว ยังน่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 งวดปี 66 (สิ้นสุดเดือนธ.ค.65) ด้วย
เราจึงคิดว่า UR ที่ต่ำในไตรมาส 2 งวดปี 66 ไม่ได้เป็นแนวโน้ม แต่เป็นเพียงช่วงเหลื่อมเวลา (lag) จากการที่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS เพิ่มขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดว่า UR ในไตรมาส 3 งวดปี 66 จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก qoq ซึ่งจากการที่เราได้คุยกับผู้บริหารของบริษัท ทำให้ทราบว่าบริษัทคาดว่า UR ในไตรมาส 3 งวดปี 66 จะสูงถึง 55% จาก 41% ในไตรมาส 2 งวดปี 66
สำหรับธุรกิจอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยบริษัทลูก (ธุรกิจ commerce ผ่าน Fanslink และธุรกิจ logistics ผ่าน KEX) เราคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 งวดปี 66 อย่างน้อยน่าจะทรงตัว qoq (ถ้าไม่ดีขึ้น) คาดว่าใกล้จะถึงจุดคุ้มทุน เพราะได้แรงหนุนจาก OOH
ประเมินว่าผลประกอบการจะเป็นอย่างไรถ้า UR ขึ้นไปถึง 55% ในไตรมาส 3 งวดปี 66 ภายใต้สมมติฐานว่าผลการดำเนินงานของบริษัทลูกจะไม่แย่กว่าในไตรมาส 2 งวดปี 66 ซึ่งในกรณีนี้คาดว่ารายได้จากธุรกิจ OOH จะเพิ่มขึ้น 33% qoq เป็น 580 ล้านบาท และ VGI ใกล้ถึงจุดคุ้มทุน จากที่ขาดทุนจากธุรกิจหลัก 147 ล้านบาทในไตรมาส 2 งวดปี 66 อันที่จริงคิดว่า VGI น่าจะมีกำไรสุทธิ เพราะจะมีรายได้จากเงินปันผล 55 ล้านบาทที่ได้รับจาก PLANB
บล.กรุงศรี คาดว่า โมเมนตัมของผลประกอบการ VGI จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้าหากโมเมนตัมของ UR ในธุรกิจสื่อดีต่อเนื่องในไตรมาส 4 งวดปี 66 ทั้งนี้ UR ระดับปกติก่อนโควิดอยู่ที่ประมาณ 60-65% หมายความว่าทั้งรายได้และกำไรยังมีโอกาสจะเติบโตได้อีกในไตรมาสต่อ ๆ ไป คงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้เป้า 5.50 บาท ชอบหุ้น VGI ในฐานะที่เป็นหุ้น laggard เมื่อเทียบกับ PLANB ทั้งในแง่ของผลการดำเนินงาน และการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นมาแรงมากในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา แต่ยังต่ำกว่าก่อนโควิดอยู่อีกมาก