นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า จากกรณีการผิดนัดชำระหุ้นบมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) มูลค่าเกิน 4 พันล้านบาทที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพ.ย.ปี 65 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นเดือน พ.ย.ทมิฬ เราจึงมีแผนการปรับปรุงเกณฑ์ต่างๆให้มีความทันสมัย และ เหมาะสมมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ไม่ได้มีการปรับปรุงเป็นระยะเวลานาน
"ต้องยอมรับว่าไม่สามารถทำได้เร็ว แต่เราก็มีแผนระยะสั้น เช่น การทบทวนการพิจารณา Risk Profile ของลูกค้า ปรับปรุงแนวทางการปฎิบัติงานภายในเพื่อลดและป้องกันความเสี่ยง ระยะยาว พิจารณาปรับปรุงกฎเกณฑ์และมาตรฐาน รวมไปถึงการพัฒนาศูนย์ข้อมูล เป็นต้น " นายภากร กล่าว
ตลท.อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อปรับปรุงกระบวนการต่างๆ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดทุนไทยให้มากยิ่งขึ้น โดยมีทั้งแผนการดำเนินงานในระยะสั้น และ ระยะยาว ตังแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เริ่มจากการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ของทั้ง SET ,mai และตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVE Exchangeหรือ LiVEx) ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ต่อมาคือการพิจารณาปรับปรุงกฎเกณฑ์การซื้อขาย การชำระราคา และ การส่งมอบหลักทรัพย์ เพื่อให้เหมาะสมกับการพัฒนาของ ตลท. และ การกำกับดูแลที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต อาทิ การซื้อขายที่มากขึ้นของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การใช้โปรแกรมเทรดดิ้ง อินเตอร์เน็ตเทรดดิ้ง ที่จะถูกเข้าถึงมากขึ้น
การพิจารณาปรับกรุงกระบวนการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงแก้ไขเกณฑ์การใช้ข้อมูลสำคัญ อาทิ ข้อมูลการถือครองหุ้น และ การรวมศูนย์ข้อมูลติดต่อกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ในด้านต่างๆ อาทิข้อมูลเครดิตบูโร ที่จะช่วยให้การบริหารจัดการเครดิตของนักลงทุนได้มีประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น
สุดท้ายคือการพิจารณาปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการร่วมกันกับหน่วยงานกำกับดูแล และ หน่วยงานอื่นๆ ทั้งในส่วนของภาครัฐ และ ภาคเอกชน เพื่อสามารถดำเนินการด้านต่างได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เพื่อที่จะลดผลกระทบไม่ให้เกิดความรุนแรง
https://youtu.be/2qsk851yTvg