นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยจะเป็นลักษณะการสลับกลุ่มการลงทุนโดยจะมีแรงซื้อเข้ามากลุ่มพลังงาน โรงกลั่น และกลุ่มปิโตรเคมี ที่ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 3% จากความคาดหวังการเปิดประเทศของจีนจะช่วยหนุนความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น
รวมไปถึงแรงซื้อในกลุ่มไฟแนนซ์ และ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล(บอนด์ยีลด์) สหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงจากคาดการณ์การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะถึงนี้จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง
แต่อย่างไรก็ตามจะมีแรงขายจากกลุ่ม Domestic play ที่ปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มค้าปลีก และ กลุ่มท่องเที่ยว
พร้อมให้แนวรับที่ 1,680 จุด และ 1,677 จุด แนวต้าน 1,690-1,695 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,973.01 จุด พุ่งขึ้น 268.91 จุด หรือ + 0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,969.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.36 จุด หรือ +1.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,931.67 จุด เพิ่มขึ้น 189.04 จุด หรือ +1.76%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,524.94 จุด เพิ่มขึ้น 78.94 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,599.82 จุด เพิ่มขึ้น 163.77 จุด หรือ +0.76% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,167.27 จุด เพิ่มขึ้น 5.43 จุด หรือ +0.17%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ม.ค.65) 1,685.75 จุด ลดลง 5.66 จุด, -0.33%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 943.77 ลบ.เมื่อวันที่ 11 ม.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (11 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 77.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ม.ค.) อยู่ที่ 9.61 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.33 ทรงตัวจากวานนี้ รอลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้
- "พิพัฒน์" ประกาศเป้าหมายใหญ่ 5 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวต่างชาติไทย 80 ล้านคนในปี 2570 มากกว่าจำนวนประชากร โต 2 เท่า เทียบปี 62 นำเข้ารายได้ 5 ล้านล้านบาท พร้อมชูนโยบายยกระดับความปลอดภัย 7 ด้าน ป้องกันเหตุวัวหายล้อมคอก ลดสถิติทัวริสต์บาดเจ็บ-เสียชีวิตในไทย ทั้ง "อันดับความปลอดภัย" ยังรั้งท้ายโลก ด้าน "แอตต้า" ชี้ต้องเร่งฟื้นเที่ยวบินเข้าไทยให้ได้ก่อน
- "เงินบาท" ยังเดินหน้าทำสถิติแข็งค่าต่อเนื่อง เผยตั้งแต่ต้นปีแข็งค่าแล้วเกือบ 4% ขณะทุนนอกทะลัก เข้า 'บอนด์-หุ้นไทย' รวมกว่า 8.1 หมื่นล้าน กกร.ชี้ส่วนใหญ่เป็นเงินร้อนเข้ามา เก็งกำไรค่าเงินผ่านบอนด์ระยะสั้น ห่วงสะเทือนผู้ประกอบการไทย ด้าน "อาคม" ย้ำไม่ใช่เรื่องต้องกังวล เหตุแบงก์ชาติจับตาใกล้ชิด
- "กกร." ประเมินจีดีพีปี 66 โตตามกรอบเดิมที่ 3-3.5% ส่งออกโต 1-2% และเงินเฟ้อ 2.7-3.2% จากท่องเที่ยวหลังจีนเปิดประเทศ แต่ยังมีข้อจำกัดที่ส่งออกจะชะลอตัวตาม ศก.โลกถดถอย ประกอบกับต้นทุนค่าไฟ ค่าแรง ดอกเบี้ยขาขึ้น กดดันภาคเอกชน รับแม้ค่าไฟภาคอุตฯ จะเหลือ 5.33 บาท/หน่วย แต่ยังคงปรับขึ้นดันราคาสินค้าขยับ 5-10% แถมฉุดลงทุน หวังเวที กรอ.พลังงานหาทางออกแก้ไขทั้งโครงสร้าง
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย คาดปี 66 ยอดออก-เสนอขายหุ้นกู้นิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เกิน 1 ล้านล้าน เหตุ เอกชนแห่ล็อกต้นทุน จากดอกเบี้ยขาขึ้น เผยมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอีก 7 แสนล้าน จับตา "ออลล์" วันที่ 24 ม.ค.นี้ ชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ ALL244A ได้หรือไม่
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTEP (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 172.00 บาท คาดราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวรับกับกับน้ำมัน Brent ที่ยืนเหนือระดับ $80/บาเรล (ล่าสุดอยู่ที่ $82.67/บาเรล) ลุ้นแผนการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ในเดือน ก.พ.-มี.ค. 66 ปันผลปี 4-5% ในปี 66 (คาดการณ์) จะช่วยค้ำยันราคาหุ้นในช่วงที่ตลาดผันผวน ด้านแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 เราประเมินที่ 1.99 หมื่น ลบ. +54%YoY, -17%QoQ หนุนด้วยปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดย DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 6.8 หมื่น พัน ลบ. และ 6.9 หมื่น ลบ. +75%YoY, +2%YoY ตามลำดับ
- PRM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท โมเมนตัมกำไรปกติไตรมาส 4/65 คาดยังแข็งแกร่งต่อเนื่องเพราะเรือ VLCC ลำที่ 3 ทำงานเต็มไตรมาส รวมถึงการ Reopening หนุนปริมาณขนส่งน้ำมันยังอยู่ในระดับที่ดี นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากบาทแข็งที่คาดมีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดกำไรปกติปี 2565-2566 +46% Y-Y และ +14% Y-Y ตามลำดับ ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรด 2023PER เพียง 12 เท่า ต่ำกว่าในอดีตก่อน COVID-19 ที่ราว 20 เท่า