นายอุกฤษณ์ วนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค (KWM) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ได้แก่ ใบผาล โครงผาล ใบเกลียวลำเลียง และใบดันดิน เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 66 บริษัทวางกลยุทธ์เชิงรุกในเจาะตลาดการจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเบื้องต้นมีการจัดทีมการตลาดเพื่อขับเคลื่อนสำหรับบุกตลาดต่างประเทศ
ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทศึกษาและขยายไปแล้วใน 3 ประเทศ อาทิ เวียดนาม, ลาว และ เมียนมา ล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในกัมพูชา ทวีปแอฟริกา และ ทวีปยุโรป เพิ่มเติม เนื่องจากมองว่าดีมานด์อุปกรณ์สำหรับการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดการใช้อุปกรณ์เกษตรในประเทศเริ่มอิ่มตัว
การขยายตลาดเป็นการตอกย้ำแบรนด์คุณภาพของ KWM เนื่องจากบริษัทมีความชำนาญ (know-how) ในการผลิตอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตรที่มีคุณภาพดีภายใต้แบรนด์ "Pegasus" ดังนั้นบริษัทฯเชื่อว่าจากแผนการขยายตลาดดังกล่าวจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทคาดจะมีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ เข้ามาประมาณ 15-20% ของรายได้รวม
ทั้งนี้ แม้ว่าธุรกิจหลักยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่หากพิจารณาจากกลุ่มธุรกิจในเครือที่บริษัทมีการลงทุนไปก่อนหน้านี้ ทั้ง บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด (LABACTIVE) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) โดย KWM ถือหุ้น 51% เพื่อดำเนินธุรกิจสกัด แปรรูปวัตถุดิบที่ได้จากพืชผลทางการเกษตรและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ ในรูปแบบ OEM และ บริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด (KWHB) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (JV) โดย KWM ถือหุ้น 51% และกลุ่มพันธมิตร ภายใต้บริษัท เฮมพ์บิซ จำกัด จะเริ่มทยอยเข้ามาสร้างรายได้เพิ่มให้กับ KWM ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
"ในปี 66 LABACTIVE อาจจะเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ เนื่องจากเรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร สถานที่ และช่องทางการเข้าถึงลูกค้า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเราได้ออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกัญชง-กัญชาแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งนี้ ปัจจุบัน LABACTIVE ก็การวางกลยุทธ์และความพร้อมในการดำเนินธุรกิจในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่มีสารสกัดจากกัญชง-กัญชา"
สำหรับ KWHB นั้น คาดว่าโรงงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเร็วๆ นี้ ก่อนที่จะติดตั้งเครื่องสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย พืชกระท่อม และดำเนินการสกัดเชิงพาณิชย์ในขั้นตอนต่อไป โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดที่ได้จากพืชกระท่อม ทั้งในรูปแบบ ละลายน้ำ แคปซูล ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอเลขที่จดแจ้งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากพืชกระท่อม จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 66 อย่างแน่นอน โดยล่าสุด อย.เข้าตรวจโรงงานสกัดสาระสำคัญจากพืชสมุนไพรไทยของ KWHB แล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตภายในไตรมาส 1/66