นายชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ แต่มองการเคลื่อนไหวอิงแดนบวก โดยคาดว่าจะมีแรงหนุนจากกลุ่มหุ้นธนาคารพาณิชย์สัปดาห์นี้จะมีการประกาศผลการดำเนินปี 65 ทยอยออกมา คาดว่าจะเป็นปีจจัยหนุนต่อดัชนี ประกอบกับทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่ายังช่วยหนุนทิศทางเงินไหลเข้าได้
ขณะที่การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯปรับดีขึ้น สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังดี ส่วนปัจจัยอื่นๆ ยังไม่มีประเด็นใหม่
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค.ของสหรัฐลดลง 0.1% เทียบกับเดือนก่อนหน้า สร้างความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอระดับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
พร้อมให้แนวต้าน 1,700 จุด แนวรับ 1,675 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,302.61 จุด เพิ่มขึ้น 112.64 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,999.09 จุด เพิ่มขึ้น 15.92 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,079.16 จุด เพิ่มขึ้น 78.05 จุด หรือ +0.71%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,836.67 จุด ร่วงลง 282.85 จุด หรือ -1.08%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,818.65 จุด เพิ่มขึ้น 79.99 จุด หรือ +0.36% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,198.52 จุด เพิ่มขึ้น 3.21 จุด หรือ +0.10%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ม.ค.65) 1,681.73 จุด ลดลง 5.72 จุด, -0.34%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 508.39 ลบ.เมื่อวันที่ 13 ม.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (13 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 79.86 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 8.4% ในรอบสัปดาห์นี้
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ม.ค.) อยู่ที่ 10.31 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.84 แข็งค่าต่อเนื่องหลังหลุด 32 คาดกรอบวันนี้ 32.70- 33.00
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ที่จะสิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค.นี้ และยังตอบไม่ได้ว่าจะต่ออายุแค่ไหน หรือลดภาษีลิตรละกี่บาท เพราะต้องดูสถานการณ์ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด แม้ภาพรวมราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง แต่จะต้องพิจารณาราคาดีเซลที่อ้างอิงราคาจากตลาดสิงคโปร์เป็นส่วนประกอบด้วย
- สนามบินสุวรรณภูมิคาดตรุษจีนผู้โดยสารใช้บริการทะลุ 1.8 ล้านคน เฉลี่ยเดินทางวันละ 1.4 แสนคน เที่ยวบินรวมกว่าหมื่นไฟลต์ ด้าน 10 แอร์ไลน์ แห่ขอเที่ยวบินเพิ่มรวม 86 ไฟลต์ แนะเผื่อเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง
- ส.อ.ท.ไม่ทน เคลื่อนไหวปมค่าไฟพุ่ง ตั้งคณะทำงานด้านพลังงาน เตรียมยื่นขอตรึงหรือลดค่าไฟงวด 2 เดือน พ.ค.-ส.ค. ขณะที่ คกก.ด้านเศรษฐกิจระดม 45 อุตสาหกรรม ทำเวิร์กช็อป กู้วิกฤตต้นทุนพุ่ง "ปุ๋ย-ยาฆ่าแมลง" โอดตรึงราคานานข้ามปีแบกต้นทุนหลังแอ่นกรมการค้าภายในเผยผงซักฟอก-อาหารสัตว์ ยื่นขอปรับราคาแต่ยังไม่อนุมัติ
- จับตา ศาลปกครองสูงสุดนัดประชุมองค์คณะศาลชุดใหญ่ เล็งเคาะผลอุทธรณ์ 2 คดี สายสีส้ม 18 ม.ค.นี้ หลังบีทีเอสซีเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง รฟม. แก้ทีโออาร์-ล้มประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้าน "สุรพงษ์" ยันรอลุ้น
- สรท.ลุ้นส่งออกไทยไปจีนปี 66 กลับมาขยายตัวได้ 5-7% รับจีนเปิดประเทศ เคลื่อนเศรษฐกิจขยายตัว ผลไม้สด ยางพารา เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ คาดพลิกบวก หลังปี 65 ติดลบ ม.หอการค้าไทยมองต่างคาดโตได้แค่ 0.5-1% หลังโควิดจีนยังระบาดหนัก จับตาฉุดการบริโภค นำเข้า-ส่งออก ยังชะลอตัว
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 240 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/65 +4% Q-Q, -8% Y-Y เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี หนุนจากรายได้ที่ทยอยฟื้นตัวทั้งธุรกิจมือถือ FBB และ Enterprise ขณะที่ฝั่งต้นทุนคาดสามารถควบคุมได้ดีในส่วน SG&A แต่ค่าใช้จ่ายโครงข่ายยังขยับขึ้นจากค่าไฟ เราคาดกำไรปี 2022 -6% Y-Y และ +4% Y-Y ปี 2023 โดยยังไม่ได้รวมการเข้าซื้อกิจการ FBB ในประมาณการ Catalyst บวกจากสถิติในอดีตคือ 1Q มักจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกด้วยความน่าจะเป็น 90% ในช่วงปี 2010-2019 ก่อนวิกฤต COVID-19 หนุนจากการประกาศจ่ายปันผล เราคาด Dividend Yield ต่อปีราว 4-4.3%
- CENTEL (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า สูงสุด BB Consensus 60 บาท)แนวโน้มผลกำไรจะปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาล และได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.2 ล้านรายในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้ระยะสั้นยังได้ผลบวกจีนเปิดประเทศ และน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน