วงการเทรดกระหึ่มลุ้นโอกาส บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) แตกพาร์จาก 1 บาทต่อหุ้นหลังจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปแรงใกล้ทดสอบ 1,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 4 ม.ค.66 ทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ที่ 990 บาท/หุ้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ราคาหุ้น DELTA ที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะคาดหวังในเรื่องของการแตกพาร์ แต่จะมีการแตกพาร์จริงหรือไม่ขึ้นกับมุมมองของผู้บริหารฯ ซึ่งต้องติดตามการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น DELTA ว่าจะมีผู้ถือหุ้นสอบถามในประเด็นนี้หรือไม่
หากมีการแตกพาร์ ก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะปรับเป็นราคาพาร์ 10 สตางค์ ก็จะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาอยู่ราว 80 บาท/หุ้น หรือแตกพาร์เป็น 25 สตางค์, 50 สตางค์ ซึ่งไม่ว่าพาร์จะลงมาเป็นเท่าไหร่ ก็จะส่งผลทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้ามาถือหุ้นได้ง่ายขึ้นจากการเพิ่มฟรีโฟลท (Free Float) ในตลาด
อย่างไรก็ตาม มองว่าผู้บริหารคงยังไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการแตกพาร์มากนัก เนื่องจากปัจจุบัน DELTA เทรดบน P/E ที่ 70 เท่า สูงกว่าบริษัทแม่ประเทศไต้หวันที่เทรดบน P/E ไม่เกิน 20 เท่า หากมีการแตกพาร์อาจทำให้ราคาหุ้นผันผวนมากขึ้น ซึ่งข้อดีของการที่ราคาหุ้นแพงและมีฟรีโฟลทต่ำ บางบริษัทก็มองว่าจะช่วยคัดกรองผู้ลงทุนมากกว่าการทำให้หุ้น Overheat เกินไป รวมถึงหากย้อนดูในอดีตหุ้นหลายตัวที่มีการแตกพาร์ ส่วนใหญ่ราคาหุ้นปรับตัวลงจาก Sell on Face เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาดันราคาหุ้นให้ไปต่อ
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นที่ค่อนข้างสูงนี้ บล.โนมูระฯ แนะนำ "ขาย" โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 650 บาท/หุ้น แม้ปัจจัยพื้นฐานดี แต่ P/E ที่ 70 เท่า แพงเกินไป โดยเราให้ P/E ที่ 50 เท่า และมองกำไรต่อหุ้น ปี 65-66 โต 127% และ 6.5%