บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) วางเป้าดันรายได้ปี 66 โตเท่าตัวแตะ 1 พันล้านบาท หลังจากเปิดโรงงาน RDF กำลังผลิต 2 แสนตัน ปลายเดือนนี้ และรับรู้รายได้เต็มปีจากธุรกิจบริหารจัดการขยะ ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลและธุรกิจอัดก๊าซ NGV ยังสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
"ปี 66 จะเป็นปีแรกที่เรามีรายได้โตแตะ 1,000 ล้านบาท โดยจะมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจ RDF กว่า 50% รองลงมา คือ ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่เหลือจะเป็น NGV และ แวนต้า แคปปิตอล" นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ SKE เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"
บริษัทคาดว่าปีนี้รายได้จะเติบโตถึง 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 65 ที่คาดว่าจะสรุปออกมาใกล้เคียงปี 64 ที่ราว 500 ล้านบาท โดยรายได้สำคัญที่จะเข้าในปีนี้คือธุรกิจเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ซึ่งได้เซ็นสัญญาขายเชื้อเพลิง RDF กับทางบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (SCIeco) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบมจ.ปูนซีเมนต์ไทย (SCC) เป็นระยะเวลา 3 ปี คิดเป็นปริมาณ RDF จำนวน 135,000 ตันต่อปี
ขณะที่โรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 200,000 ตัน/ปี มีกำหนดเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายเดือนม.ค.นี้ นอกจากผลิต RDF ป้อนให้กับกลุ่มปูนซีเมนต์แล้ว ส่วนที่เหลืออีก 70,000 ตันจะขายให้กับโรงไฟฟ้าขยะในประเทศไทย และโรงงานปูนซีเมนต์อื่นๆ
ส่วนธุรกิจต้นน้ำ หรือบริหารจัดการบ่อขยะ ช่วงที่ผ่านมาเริ่มรับรู้รายได้มาตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.65 แต่ยังไม่มาก ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทฯ คาดหวังว่าจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี และจะมีบทบาทสำคัญในช่วง 3 ปีนี้จากการสร้างรายได้เพิ่ม รวมถึงมีวัตถุดิบขาเข้าที่จะนำมาใช้กับโรงงาน RDF
ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ปีนี้ถือเป็นปีที่ 4 ของการจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ (COD) คาดว่าจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น จากการจัดการเชื้องเพลิงขาเข้า ปรับปรุงการดำเนินงาน หรือซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า ขณะที่ธุรกิจให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติ NGV ก็มีการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง
สำหรับบริษัท แวนต้า แคปปิตอล จำกัด (VANTA) ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ SKE ถือหุ้นในสัดส่วน 30.04% ที่ผ่านมามีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเข้ามาบ้างแล้ว แต่ยังน้อยอยู่ เนื่องจากปีก่อนได้มีการหยุดให้บริการไปพัฒนาโปรแกรมให้มีความเร็วมากขึ้นรองรับกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และการซื้อขายในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หลังจากปีก่อนประสบกับปัญหาวอลุ่มเทรดลดลง อีกทั้งเตรียมขยายไปสู่การเป็นที่ปรึกษาเขียน Code ให้กับลูกค้า ทั้งสถาบันการเงิน และบริษัทจำกัด โดยคาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งในเดือนมี.ค.นี้
"การลงทุนในปีนี้ บริษัทน จะมุ่งเน้นในธุรกิจ RDF เป็นหลักตั้งแต่ต้นน้ำจนไปถึงปลายน้ำ ขณะที่ก็มองโอกาสการลงทุนใหม่ด้วยเช่นกัน ในธุรกิจที่เป็นกระแส หรือเห็นถึงการเติบโตในอนาคต"นายจักรพงส์ กล่าว