นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) กล่าวว่า บริษัทได้รับงานจากกลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อติดตั้งและดูแลอุปกรณ์โซลาร์ รูฟท็อปขนาด 250 กิโลวัตต์ที่โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม เป็นสาขานำร่อง เพื่อเป็นต้นแบบให้กับสาขาอื่น ๆ ต่อไป
"การสร้างความร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ก็ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญสำหรับดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มสุขภาพและสาธารณสุข โดยในเฟสแรกจะเป็นความร่วมมือในการติดตั้ง และดูแลอุปกรณ์โซลาร์ รูฟท็อปขนาด 250 กิโลวัตต์ที่ และอยู่ในระหว่างการพูดคุยเพื่อขยายความร่วมมือไปสู่โรงพยาบาลในเครืออีก 3 แห่ง รวมเป็น 1 เมกะวัตต์ในอนาคต คาดว่าในปีแรกของการติดตั้งจะช่วยกลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวชลดการใช้พลังงานได้มากกว่าปกติ 20% พร้อมช่วยลดค่าไฟฟ้ากว่า 30%"
นางสาวชมกมล กล่าวว่า ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป เป็นหนึ่งในธุรกิจที่บริษัทได้วางรากฐานสนับสนุนแนวคิดเรื่องพลังงานสะอาด สอดคล้องกับการพยายามเพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอ ทั้งเพื่อกระจายความเสี่ยง สร้างช่องทางรายได้ใหม่ ๆ เป็นการต่อยอดธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทได้ลงนามในสัญญา PPA 15 โครงการให้กับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ รวมกำลังการผลิตกว่า 10 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตรวมอย่างน้อย 30 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ และมีเป้าหมายที่จะขยายให้ถึง 100 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 โดยเน้นที่กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาล เพื่อช่วยลดความจำเป็นในการใช้พลังงานฟอสซิล รวมถึงสถานศึกษา วัด โรงพยาบาล ฯลฯ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจเพื่อผลดีต่อสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง
พญ.สุนีย์ ธีรการุณวงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนลหนองแขม กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "กลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจเพื่อสนับสนุนการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นการสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีควบคู่ไปกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างยั่งยืน"
"ความร่วมมือในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มุ่งเห็นประโยชน์ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยประหยัดพลังงาน ลดการก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่อาจเกิดขึ้นจากการผลิตไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศในระยะยาว"