บมจ.แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป (PRHG) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 54 ล้านหุ้น คิดเป็น 18% ของจำนวนหุ้นหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท/หุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถ อาคารผู้ป่วยใหม่ที่ 1 และ 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67 และ 69 รวมทั้งซื้อครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชำระคืนเงินกู้บางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ภายในปี 66-67
PRHG ก่อตั้งโดยกลุ่มครอบครัวแย้มสอาด, กลุ่มครอบครัวตระกูลช่าง, กลุ่มครอบครัวฮันตระกูล และ กลุ่มแพทย์ ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันมีโรงพยาบาลภายใต้บริษัทฯ ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต (PRH) โรงพยาบาลแพทย์รังสิต2 (PRH2) และมีโรงพยาบาลที่จดทะเบียนภายใต้บริษัท ปทุมรักษ์เวชการ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้แก่ โรงพยาบาลเฉพาะทางแม่และเด็กแพทย์รังสิต (MCH) ซึ่งโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่งนี้มีที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันที่ใน อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ปัจจุบันกลุ่มแพทย์รังสิตมีจำนวนเตียงจดทะเบียนรวมทั้งหมด 270 เตียง พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้บริการดูแลรักษาและให้คำปรึกษาอย่างครบวงจรในหลากหลายสาขา โดยเฉพาะศูนย์หัวใจ 24 ชั่วโมงที่มีศักยภาพในการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด (Open Heart Surgery) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการทำหัตถการรักษาหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน ระดับ 1 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดียวใน สปสช. เขต 4 ประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี และนครนายก
กลุ่มลูกค้าหลัก ประกอบด้วย (1) กลุ่มลูกค้าทั่วไป ได้แก่ กลุ่มลูกค้าทั่วไป กลุ่มลูกค้าคู่สัญญา และกลุ่มลูกค้าทั่วไปอื่นๆ (2) กลุ่มลูกค้าตามโครงการสวัสดิการภาครัฐ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าตามโครงการประกันสังคม กลุ่มลูกค้าตามโครงการของ สปสช. และกลุ่มลูกค้าโครงการสวัสดิการข้าราชการภายใต้กรมบัญชีกลาง หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ
PRHG วางแผนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของกลุ่มผู้ใช้บริการในปัจจุบัน รวมถึงกลุ่มผู้ใช้บริการใหม่ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถ และต่อยอดความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคผู้สูงอายุ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง และโรคทางนรีเวช ให้ครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 246 ล้านบาท โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัก มีกลุ่มครอบครัวตระกูลช่าง ถือหุ้น 45.17% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 37.03% กลุ่มรอบครัวแย้มสอาด ถือหุ้น 33.54% จะลดลงเหลือ 27.49%
ผลประกอบการช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้จากการประกอบกิจการพยาบาล 1,441.14 ล้านบาท 1,540.65 ล้านบาท 1,971.08 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 60.16 ล้านบาท 104.64 ล้านบาท 317.48 ล้านบาท ตามลำดับ
งวด 9 เดือนแรกของปี 65 บริษัทมีรายได้ 1,606.12 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 64 อยู่ที 1,387.78 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักมาจากกลุ่มลูกค้าตามโครงสร้างสวัสดิการภาครัฐ 50.76% ขณะที่กลุ่มลูกค้าทั่วไปอยู่ที่ 48.64% กำไรสุทธิ 270.37 ล้านบาท จาก 25.86 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 ก.ย.65 มีสินทรัพย์รวม 1,634.23 ล้านบาท หนี้สินรวม 661.60 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 972.63 ล้านบาท
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ