นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยว่า ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ของ OR พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ "Empowering All toward Inclusive Growth" หรือ "เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน" และมุ่งผลักดัน OR ให้ทะยานไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วยแนวคิด "RISE OR" สะท้อนถึงบทบาทความเป็นผู้นำ โดยวางเป้าหมายมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอับดับ 1 ในธุรกิจ EV ภายในปีนี้ และรักษาผู้นำมาร์เก็ตแชร์ของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน
สำหรับ RISE OR ประกอบด้วย
1. Result การมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่เป็น รูปธรรม
2. Intelligence การตัดสินใจที่ฉลาดบนพื้นฐานของข้อมูลข่าวสารที่มีประสิทธิภาพ
3. Synergy การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท.
4. Entrepreneurship การทุ่มเทในบทบาทหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ โดยให้ความสำคัญกับการลงมือทำที่ชัดเจนทั้ง 3 ด้านได้แก่
- Synchronization for Ecosystem หรือ การประสานธุรกิจพลังงานและไลฟสไตล์ให้เป็นหนึ่ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของ OR ผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของ แต่ละธุรกิจ ในการเสริมความเข้มแข็งซึ่งกันและกัน ให้สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตแห่งอนาคต ทั้งด้าน offline และ online
- Synergy for Impact หรือ การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อ ยกระดับผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดแบบครบวงจร พร้อมเปิดประตู ความร่วมมือสู่การเติบโตร่วมกัน
- Sustainability for Future หรือ การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น
S ? SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก (Opportunities for Communities) ผ่านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน
D ? DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ (More Partners, Products and Services) ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกัน
G ? GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด (Low Carbon Business Areas) ผ่านการส่งเสริม ธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำ อย่างยั่งยืน และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 ตลอดจนมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2050
อีกทั้งยังได้เสริมแนวคิดใหม่ในการบริหารงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรตามพันธกิจทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย Seamless Mobility โดยวางเป้ามีจุดชาร์จรถไฟฟ้าที่ 7,000 จุด ทั่วประเทศในปี 73, All Lifestyles, Global Market และ OR Innovation ได้แก่ Ecosystem Design หรือ การออกแบบระบบนิเวศสำหรับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า Professional Management หรือ การพัฒนาบุคลากรภายในควบคู่กับการสรรหาพันธมิตร ที่มีความเชี่ยวชาญจากภายนอก Strategic Alliance หรือ การสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ Sustainability Criteria หรือการกำหนดหลักเกณฑ์ด้าน People & Planet ในการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน นายดิษทัต กล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุนที่จะเข้ามาหนุนการเติบโต บริษัทวางงบลงทุน 5 ปีราว 100,000 ล้านบาท โดยจะใช้ในปีนี้ 31,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจ Mobility ราว 22%, Lifestyle 45%, Global 16%, Innovation 17% ขณะที่ผลประกอบการปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะเติบโตดีกว่าปีก่อนจากดีมานด์เพิ่มขึ้นตามการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในประเทศ รวมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินมาในไทยมากขึ้น หลังเปิดประเทศ ซึ่งจะเข้ามาหนุนยอดขายให้เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน (Jet) ที่ปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันยัง OR ยังมองหาโอกาสการเติบโตทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีคุณภาพ ด้านประเด็นกระแสการควบรวมของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัทฯ ถือว่ามีความพร้อมในการแข่งขัน เนื่องจากมีธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งสถานีบริการน้ำมัน และร้านค้าที่ร่วมกับพันธมิตร ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ รวมทั้งมี Value Chain ที่กว้างในกลุ่ม ปตท. และมีพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจ