นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้จากการขายปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยจะมาจากยอดขายในประเทศที่คาดโต 15% หลังการบริโภคฟื้นตัว กลับมาดีกว่าก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว ขณะที่ยอดขายต่างประเทศวางเป้าหมายโตสูงถึง 50%
"เราเห็นยอดขายในบิ๊กซี สาขาราชดำริ เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 65 ซึ่งในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 อยู่ที่ระดับกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ช่วงโควิด-19 ลดลงไปเหลือ 10,000 บาท แต่ล่าสุดเดือนธ.ค.65 ยอดขายจากบิ๊กซี สาขาราชดำริขึ้นมาที่ 7 ล้านบาท หลัก ๆ เป็นยอดขายจากกลุ่มนักท่องเที่ยว เวียดนาม เกาหลี และมาเลเซีย ประกอบน่าจะได้ปัจจัยหนุนจากนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้นด้วย"
"หรืออย่างร้านซุปเปอร์ชีปภูเก็ต จากเดิมที่เห็นเคยสั่งสินค้าของ SNNP ที่ประมาณ 400-500 ลังต่อเดือน แต่ในปัจจุบันสั่งเพิ่มขึ้นจนบริษัทต้องเพิ่มวงเงินเครดิตให้กับลูกค้า"นายวิโรจน์ กล่าว
บริษัทเตรียมความพร้อมด้านการผลิตเพื่อรองรับการบริโภคที่จะกลับมาไว้แล้ว โดยจะเร่งผลิตสินค้า "เบนโตะ" ในเวียดนามให้เริ่มได้ในเดือนพ.ค.66 เร็วกว่าแผนเดิมในไตรมาส 3/66 ขณะเดียวกันได้ปรับลดขนาดบรรจุภัณฑ์ (pocket-size) เพื่อดันมาร์จิ้นเพิ่มประมาณ 7-8% โดยล่าสุด เตรียมส่งสินค้า pocket-size ใหม่วางขายในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ใน tourist distribution (สาขาที่กระจายอยู่ในเมืองท่องเที่ยว) จำนวน 600 สาขา
นอกจากนี้ยังมีการปรับการสต็อกสินค้าในกลุ่มค้าส่งทั่วประเทศให้ลดลงเหลือ 15 วัน จากเดิมที่ 30 วัน เพื่อไม่ให้สินค้าขาดหน้า Shelf ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการซื้อ และเพิ่มโอกาสให้การขายให้กับบริษัทด้วย
ด้านยอดขายจากต่างประเทศในปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% โดยเฉพาะในเวียดนาม บริษัทวางเป้ายอดขายเติบโตไว้ที่ 1,000 ล้านบาท จากปี 65 ที่คาดทำได้ 600 ล้านบาท รับปัจจัยบวกจากการเริ่มเดินเครื่องผลิตโรงงานใหม่ในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 30%
และจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นก็คาดว่าจะส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยวางเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าปี 65 ที่อยู่ระดับ 30%
นายวิโรจน์ กล่างอีกว่า บริษัทยังมีแผนจะเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) อย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 23 ม.ค.66 จะไปที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จากนั้นในวันที่ 1-3 ก.พ.66 จะโรดโชว์กับกองทุนสิงคโปร์ และวัน 13-14 ก.พ.66 ธนาคารซิตี้แบงก์ จะไปเยี่ยมชมโรงงานที่ประเทศเวียดนาม เป็นต้น
ปัจจุบันมีกองทุนถือหุ้น SNNP รวมกว่า 20 กองทุน มีทั้งกองทุนในประเทศและกองทุนต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันประมาณ 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง ขณะที่ในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนประมาณ 70% และนักลงทุน VI ประมาณ 5% ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อย