นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ ไฮบริด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ได้เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการ SPP HYBRID ขนาดกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์เพิ่มจาก 1,592.32 เมกะวัตต์ เป็น 1,608.32 เมกะวัตต์
โครงการ SPP HYBRID ในจังหวัดสระแก้ว เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ โดยสามารถผลิต และขายไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง จากค่าเฉลี่ยในผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 4 ชั่วโมง/วัน ส่งผลต่อความสามารถในเพิ่มรายได้จากการขายไฟฟ้าในปริมาณเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวให้อัตราผลตอบแทน (IRR) เฉลี่ย 13-15%
สำหรับโครงการ SPP HYBRID ในจังหวัดสระแก้ว ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY) ในการปล่อยวงเงินสินเชื่อ (Project Financing) เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการ ก่อสร้าง และยังเป็นการเสริมความเชื่อมั่นจากการรับสนับสนุนจากสถาบันการเงินอีกด้วย
"โครงการ SPP HYBRID ถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าแห่งแรกของปีนี้ที่ COD และความโดดเด่นของ SPP HYBRID คือสามารถจำหน่ายไฟ 24 ชั่วโมง เท่ากับว่าจะสนับสนุนต่อการสร้างมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ทำให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้นและโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี และจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทฯ" นายจอมทรัพย์กล่าว
นอกจากนี้ยังมีโครงการต่างๆ ในมือที่จะทยอย COD ต่อเนื่อง เช่น โครงการโรงไฟฟ้าจากขยะ โซลาร์รูฟท็อป โครงการการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน( Private PPA ) ฯลฯ รวมทั้งโครงการ PDP ในประเทศ และแผนพัฒนาพลังงานกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศเวียดนาม (PDP8) โดยปี 66 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% จากปีก่อน