บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 75,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกิน 25.17% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ที่ราคา 28.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อในช่วงวันที่ 3, 6-7 ก.พ.66 รวมเงินระดมทุน 2,151.75 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 14 ก.พ. ในหมวดบริการ
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ MEB เปิดเผยว่า ผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายมีอยู่ 2 แห่ง คือ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และ บล.โนมูระ พัฒนสิน
ราคาเสนอขายหุ้น IPO หากพิจารณาผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (1 ต.ค.64-30 ก.ย.65) เท่ากับ 321.16 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลัง IPO (Fully Diluted) 300 ล้านหุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.07 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ประมาณ 26.64 เท่า เทียบกับบริษัทในกลุ่มเดียวกัน ได้แก่ บมจ.รุ่งเรืองตลอดไป (GLORY) 45.01 เท่า
MEB เป็นผู้จัดจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) หนังสือเสียง (Audio Book) อุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Reader) และการบริการที่เกี่ยวข้อง จัดสรรหุ้นครั้งนี้ แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 22,500,000 หุ้น , หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Two Bees (HK) Limited 39,875,000 หุ้น และ หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Brain Ventures Limited 13,125,000 หุ้น
ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนชำระแล้วเป็นจำนวนไม่เกิน 150,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทจะนำหุ้นที่เหลือรวม 59,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 19.83% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO เข้าทำหนังสือข้อตกลงกับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายว่าจะไม่จำนำ จำนอง ก่อภาระติดพัน ขายหรือจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นให้แก่บุคคลอื่นในช่วง 6 เดือนนับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
อนึ่ง ภายหลังการขายหุ้น IPO ในครั้งนี้นายรวิวร มะหะสิทธิ์ และนายกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทฯ จะถือหุ้นรวมกันประมาณ 18.7% และ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ผ่านบริษัทย่อยในกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิม จะถือหุ้นประมาณ 56% ใน MEB
บริษัทมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น 619.83 ล้านบาทไปใช้ขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) โดยการเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ราว 320 ล้านบาท ใช้ขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ 230 ล้านบาท และ ใช้ปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ ราว 69.83 ล้านบาท
นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB มั่นใจว่า ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการทำธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น รวมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อเปิดโอกาสสำคัญในการต่อยอดธุรกิจทั้งการสร้างแพลตฟอร์มใหม่หรือการควบรวมกิจการหรือการเข้าซื้อกิจการในอนาคต และต่อยอดความเป็นผู้นำในธุรกิจด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบการดำเนินงานมุ่งสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
"การกำหนดราคาไอพีโอที่หุ้นละ 28.50 บาทพิจารณาจาก Bookbuild นักลงทุนสถาบันที่แสดงความสนใจในการจองซื้อหุ้น MEB เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่ง MEB มีผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง สถานะทางการเงินแข็งแกร่งไม่มีภาระหนี้สินเลย อีกทั้งธุรกิจเกี่ยวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Book มีความพิเศษเฉพาะตัว ทำให้มีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันมีทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์และมีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมนี้เป็นอย่างดี โดยบริหารบริษัทฯ มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน"นายพิเชษฐ กล่าว