นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ บมจ. เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) เปิดเผยว่า ทีมผู้บริหาร MEB และที่ปรึกษาทางการเงินได้ร่วมกันนำเสนอข้อมูล (Investor Roadshow) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับนักลงทุนเมื่อวานนี้เพื่อให้เข้าใจถึงภาพรวมธุรกิจ และแผนการดำเนินงานในอนาคต รวมทั้งให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตภายหลังจากการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนประมาณวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ในหมวดธุรกิจบริการ
MEB จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.17 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ซึ่งจะแบ่งเป็นการเสนอขายต่อนักลงทุนรายย่อยของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท และนักลงทุนสถาบัน
"การโรดโชว์ในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เนื่องจาก MEB เป็นผู้นำธุรกิจวรรณกรรมออนไลน์ (E-Book) ที่มีวรรณกรรมและแพลตฟอร์มที่หลากหลาย มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งเมื่อพิจารณาจากรายได้รวม มีสมาชิกผู้เข้าใช้บริการมากกว่า 8,000,000 บัญชี และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการให้บริการที่เหนือชั้น ความปลอดภัยในการใช้งาน และระบบที่มีความเสถียร สามารถสร้างความพึงพอใจและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการและเจ้าของผลงานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งอยู่ในอุตสาหกรรมวรรณกรรมออนไลน์ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเติบโตของพฤติกรรมผู้บริโภคในการใช้อินเทอร์เน็ตและ Social Media
นอกจากนี้ยังมีวรรณกรรมเพื่อนักอ่านมากกว่า 1,000,000 เรื่อง พร้อมกันนี้ยังมีผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่มั่นคง และเป็นบริษัทในเครือของ CRC ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทำให้มีความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจและขยายกิจการ จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตได้ในระยะยาว"
นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB ซึ่งจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite เปิดเผยถึง ผลประกอบการในปี 62-64 และงวด 9 เดือนของปี 65 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 618.72 ล้านบาท 1,004.68 ล้านบาท 1,456.38 ล้านบาท และ 1,263.54 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 82.09 ล้านบาท 164.74 ล้านบาท 275.34 ล้านบาท และ 241.85 ล้านบาท ตามลำดับ
"รายได้ของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) จากทั้งแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการเฉลี่ยต่อเดือน (Monthly Active User หรือ MAU) ของทั้ง 2 แพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น โดย MAU ของแพลตฟอร์ม meb ในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 0.34 ล้านราย/เดือน เป็น 0.58 ล้านราย/เดือน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 และ MAU ของแพลตฟอร์ม readAwrite เพิ่มขึ้นจาก 1.78 ล้านราย/เดือน ในปี 2562 เป็น 5.71 ล้านราย/เดือน ในงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมทางการตลาด และรายการส่งเสริมการขาย และผลจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่สนใจการอ่านวรรณกรรมออนไลน์มากยิ่งขึ้น"
วัตถุประสงค์ในการใช้เงินระดมทุนครั้งนี้ประกอบด้วย 1. เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb readAwrite และ Hytexts) โดยการเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ ประเภทนิยายและไม่ใช่นิยาย 2. เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ โดยเน้นการใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ไปพร้อมกับซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมภาษาไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ และ 3. เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาแพลตฟอร์มปัจจุบันให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ และจากแผนการใช้เงินดังกล่าว บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตรารวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ