SET ปิดช่วงเช้านี้ 1,685.17 จุด ลดลง 3.19 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขายราว 28,025 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นเช้านี้ ดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค ทำระดับสูงสุด 1,687.78 จุด และต่ำสุด 1,680.22 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงคล้ายตลาดเอเชีย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ม.ค.ที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งในเดือนมี.ค.และพ.ค.สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25%
จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่า ล่าสุด มาอยู่ที่ 33.50 บาท/ดอลาร์ เป็นแรงกระตุ้นเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนม.ค.66 ขยายตัว 5.02% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 5.1% ถือว่าชะลอตัวมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมสินค้าหมวดอาหารสด และพลังงานขยายตัวเพียง 3.04%
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวอยู่ในแดนลบต่อไป ให้แนวรับ 1,675 จุด และแนวต้าน 1,690 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,598.97 ล้านบาท ปิดที่ 948.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 943.49 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 784.24 ล้านบาท ปิดที่ 32.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 748.97 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 739.61 ล้านบาท ปิดที่ 164.50 บาท ลดลง 1.50 บาท