SVR ปิดเทรดวันแรกที่ 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท (+13.64%) มูลค่าซื้อขาย 1,519.62 ล้านบาท จากราคาเปิด 3.26 บาท ราคาสูงสุด 3.30 บาท ราคาต่ำสุด 2.46 บาท
บล.พาย ประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้น บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (SVR) ปี 66 ที่ 3.1 บาทต่อหุ้น ด้วยวิธี PE multiple โดยใช้กำไรต่อหุ้นปี 66 ที่ 0.36 บาท เพื่อสะท้อน 1.รายได้จากการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น จากโครงการที่มีอยู่เดิมและการเปิดโครงการใหม่ในอนาคต 2. อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการแนวราบใหม่ที่มีราคาสูงขึ้น โดยกำหนดเป้าหมาย PE ปี 66 ที่ระดับ 8.5 เท่า ซึ่งเทียบเคียงค่าเฉลี่ยการซื้อขายของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
บริษัทมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในจังหวัดสมุทรปราการบริเวณพื้นที่บางปู และเทพารักษ์ ทำเลที่มีการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม เช่น นิคมบางปู และนิคมพัฒนา-จังหวัดระยอง และพื้นที่อื่นๆ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเพื่อกระจายความเสี่ยงในทำเลที่แตกต่างกัน ได้แก่ อำเภอศรีราชา-จังหวัดชลบุรี และ อำเภอไทรน้อย-จังหวัดนนทบุรี
ณ ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนโครงการทั้งหมด 9 โครงการ แบ่งเป็น 1. โครงการที่ปิดการขายแล้ว 2 โครงการ มูลค่า 957 ล้านบาท 2. โครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 6 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,996 ล้านบาท และ 3 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 1 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 686 ล้านบาท
กำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 68% ในปี 65-67 คาดกำไรสุทธิปี 65 เพิ่มขึ้น 34%YOY มาที่ 69 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ที่เติบโตเป็น 778 ล้านบาท (+39%YoY) และ คาดว่าผลประกอบการจะเติบโต 167%YOY และ 31% YOY ในปี 66-67 เป็น 185 ล้านบาท และ 243 ล้านบาท ตามลำดับ
จากสมมติฐานดังนี้ 1. รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 39% ในปี 65-67 หนุนจาก Backlog ในมือช่วงไตรมาส 3/65 ราว 472 ล้านบาท และ การรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น จากการโอนโครงการที่มีอยู่เดิมและโครงการที่จะเปิดใหม่ในอนาคต
2. อัตรากำไรขั้นต้นที่ 31.2%, 34.0% และ 34.5% ในปี 65-67 เพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่ 30.4% จากอัตรากำไรขั้นต้นจากการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นตามการเปีดโครงการใหม่ที่มีราคาขายสูงขึ้น
เงินที่ได้จาก IPO บริษัทมีแผนใช้เป็นเงินทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแผนธุรกิจและแผนการตลาด, ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลอื่นและบริษัทย่อย SVC และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ