ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน หลังจากที่วาโชเวีย คอร์ป เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่น่าผิดหวัง
การซื้อขายวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา ภายหลังแรงเทขายเมื่อวันศุกร์และก่อนการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสและข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 23.36 จุด หรือ 0.19% แตะระดับ 12,302.06 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดปรับตัวลง 4.51 จุด หรือ 0.34% แตะระดับ 1,328.32 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 14.42 จุด หรือ 0.63% แตะระดับ 2,275.82 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.18 พันล้านหุ้น ลดลงจากการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ 1.26 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
ธนาคารวาโชเวียเปิดเผยผลประกอบการขาดทุน 393 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดคาด เนื่องจากนักวิเคราะห์เชื่อว่าธนาคารจะมีกำไร นอกจากนี้ ธนาคารยังประกาศลดเงินปันผลรายไตรมาสลง 40% เหลือ 37.5 เซนต์ และเผยว่ามีแผนที่จะระดมทุนเพิ่ม 7 พันล้านดอลลาร์ผ่านการเสนอขายหุ้น
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อปรากฏว่ายอดค้าปลีกเดือนมีนาคมดีเกินคาด โดยกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่ลดลง 0.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจได้บ้าง โดยตัวเลขในเดือนมี.ค.ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่ายอดค้าปลีกจะทรงตัวในเดือนมี.ค.
ไรอัน ดีทริก นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Schaeffer's Investment Research กล่าวว่า มีข่าวการเงินในเชิงลบออกมาอีก ซึ่งรวมถึงรายงานผลประกอบการของวาโชเวีย แต่ในขณะเดียวกัน ยอดค้าปลีกกลับออกมาดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้เล็กน้อย ซึ่งช่วยลบล้างกันได้
ทั้งนี้ นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน โดยเฉพาะหุ้นวาโชเวีย ซึ่งร่วงลง 2.26 ดอลลาร์ หรือ 8% แตะ 25.55 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งมีกำหนดการเปิดเผยผลประกอบการวันศุกร์นี้ ลดลง 85 เซนต์ หรือ 3.6% ปิดที่ 22.51 ดอลลาร์
ดีทริกกล่าวว่า ข่าววาโชเวียได้เพิ่มความวิตกให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับภาคธนาคาร หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ได้มีการเปิดเผยผลประกอบการของเจเนอรัล อิเล็คทริก โค หรือ จีอี ซึ่งกล่าวว่า ธุรกิจบริการทางการเงินของบริษัทได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวและตลาดทุน ซึ่งจากตัวเลขผลประกอบการรวมไตรมาสแรกที่น่าผิดหวังของจีอี ทำให้ดัชนีหลักๆร่วงลงมากกว่า 2% เมื่อวันศุกร์
เขากล่าวด้วยว่า นักลงทุนหลายรายรีรอที่จะทำการซื้อขาย ก่อนที่จะมีการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเอกชนและข้อมูลเศรษฐกิจเกี่ยวกับเงินเฟ้ออกมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--