NTSC ปิดเทรดวันแรกที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.75 บาท (+40.95%) มูลค่าซื้อขาย 1,718.90 ล้านบาท จากราคาเปิด 38.00 บาท ราคาสูงสุด 41.75 บาท ราคาต่ำสุด 35.25 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรปี 65 ที่ 90 ล้านบาท อ่อนตัว 9%YoY หลังกำไรงวด 6 เดือนของปี 65 อยู่ที่ 45 ล้านบาท อ่อนตัว 6.5%YoY และคิดเป็นประมาณ 50% ของประมาณการทั้งปี โดยกำไรที่อ่อนตัวในปี 65 เป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าตัดจำหน่ายสิทธิการใช้ที่ดินและอาคารจากการทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว 20 ปี เพื่อเป็นที่ตั้งของคลังสินค้าและสำนักงานใหญ่ในปี 64
แต่คาดกำไรปี 66-67 จะกลับมาเติบโตได้ดีราว 22%YoY และ 12%YoY ตามลำดับ โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโต โดยเฉพาะในส่วนของอาหารสัตว์ที่บริษัทมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับตลาดอาหารสัตว์ที่ขยายตัวสูง นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะลงทุนในเครื่องจักรเพื่อผลิตวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง และวัตถุเจือปนในอาหารคนเช่นกัน เพื่อลดต้นทุนจากแรงงาน ส่งผลบวกต่อทั้งยอดขายและอัตรากำไร
ให้ราคาเป้าหมาย 30 บาท
เราประเมินราคาเป้าหมายปี 66 ของ NTSC ที่ 30 บาท โดยอิง Justified PER 27 เท่า ตามวิธี Gordon Growth Model ซึ่งใกล้เคียงกับค่า PER ของธุรกิจที่มีลักษณะเดียวกันในตลาด MAI อย่างเช่น NRF ที่ปัจจุบันซื้อขายกันอยู่ที่ราว 24 เท่า และยังต่ำกว่า RBF ที่ซื้อขายกันที่ 52 เท่า ค่อนข้างมาก