นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (SVR) เปิดเผยว่า หลังมีรายงานการขายหุ้นของกรรมการอิสระรายหนึ่ง และหนึ่งในผู้บริหารของ SVR ออกมา ถือเป็นหุ้น IPO ที่ให้สิทธิแก่กรรมการและพนักงาน และไม่ได้ติด Silence Period ซึ่งเป็นรายการที่ขายในกระดานเหมือนกับนักลงทุนทั่วไปที่จองซื้อ IPO เช่นเดียวกัน และถือเป็นสัดส่วนที่ขายออกมาน้อย ไม่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัท และความเชื่อมั่นต่อบริษัทอย่างใด แม้ว่าจะมีความกังวลจากนักลงทุนอื่นๆบ้างในวันนี้
ในส่วนของผู้บริหารและกรรมการบริษัทคนอื่นๆ ยังไม่มีการขายหุ้นออกไป โดยถือหุ้นที่ได้รับการจัดสรรอยู่เช่นเดิม รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทก็ยังติด Silence Period ด้วยเช่นกัน และยังคงมีนโยบายถือหุ้น SVR อย่างต่อเนื่อง เพราะทุกคนในบริษัทมีความพร้อมในการเดินหน้าตามแผนงานหลังได้รับเงิน IPO เข้ามาแล้ว ซึ่งเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะเห็นผลงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นของ SVR ในปี 65 และต่อเนื่องในปี 66 อย่างแน่นอน
สำหรับกรรมการอิสระรายหนึ่ง และหนึ่งในผู้บริหารของ SVR ที่ได้แจ้งรายงานการขายหุ้นออกไป ยังคงร่วมงานกับบริษัทตามปกติ และเป็นส่วนหนึ่งของกรรมการและทีมบริหารของบริษัทเหมือนเดิม
ในช่วงเช้าที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ SVR เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้บริหารของ SVR ได้ดำเนินการจำหน่ายหุ้น SVR ตั้งแต่วันที่หุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก จำนวน 2 รายดังนี้
นายปรีชา เปล่งผิว กรรมการ SVR ได้ขายหุ้น SVR เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 66 ซึ่งเป็นวันเทรดวันแรก 3 รายการ รวม 110,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 2.80 บาทถึงราคา 3.20 บาท โดยภายหลังจากการทำรายการดังกล่าวส่งผลให้นาย ปรีชา มีสัดส่วนการถือหุ้น SVR เหลืออยู่จำนวน 90,000 หุ้น
นายเอก งามจิรัฐิติกาล รองกรรมการผู้จัดการ SVR ขายหุ้นในวันที่ 8 ก.พ. 66 จำนวนทั้งสิ้น 300,000 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 2.76 บาท และไม่มีสัดส่วนการถือหุ้น SVR เหลืออยู่