นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวร่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มองว่าการปรับตัวลงค่อนข้างจำกัด และมีโอกาสพลิกกลับตัวได้หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้วเข้าใกล้แนวรับ 1,650 จุด โดยที่ตลาดรับรู้ปัจจัยต่างๆไปมากแล้ว และเมื่อคืนนี้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ออกมาสูงกว่าคาดว่าไม่กระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคมากนัก เพราะในช่วงเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดตลาดมาส่วนเคลื่อนไหวทั้งบวกและลบ และตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนก็ปรับตัวลงเล็กน้อยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในวันนี้มีอีกปัจจัยที่ส่งผลสำคัญต่อดัชนี จากการประกาศผลการดำเนินงานของ DELTA ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางของดัชนีด้วยเช่นกัน หากออกมาดีคาดว่าจะช่วยทำให้ดัชนีกลับตัวขึ้นมาได้ แต่หากออกมาแย่อาจจะมีผลต่อกดดันดัชนีหลุดแนวรับได้
โดยให้แนวรับที่ 1,640-1,650 จุด แนวต้าน 1,660-1,670 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (14 ก.พ.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,089.27 จุด ลดลง 156.66 จุด หรือ -0.46%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,136.13 จุด ลดลง 1.16 จุด หรือ -0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,960.15 จุด เพิ่มขึ้น 68.36 จุด หรือ +0.57%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,686.01 จุด เพิ่มขึ้น 83.24 จุด หรือ +0.3%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,116.84 จุด เพิ่มขึ้น 3.08 จุด หรือ +0.01% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,294.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.73 จุด หรือ +0.02%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 ก.พ.66) 1,652.76 จุด ลดลง 12.13 จุด (-0.73%) มูลค่าการซื้อขาย 70,518.69 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 733 ลบ.เมื่อวันที่ 14 ก.พ.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. (14 ก.พ.) ลดลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 79.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ก.พ.) อยู่ที่ 5.88 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.96 อ่อนค่า กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อหลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
- "เฟทโก้" มั่นใจ ยุทธศาสตร์บีโอไอสู่เศรษฐกิจใหม่ พลิกโฉม ประเทศดูดเงินลงทุนรอบใหม่เข้า "ตลาดหุ้น-เอฟดีไอ" ระยะยาว ด้าน "กอบศักดิ์" ชี้ประเทศไทยเริ่มกลับมามีเสน่ห์อีกครั้ง จากปีก่อนหุ้นไทยเป็นหลุมหลบภัย ช่วยโลกเผชิญมรสุมใหญ่ "เลขาบีโอไอ" มั่นใจเม็ดเงินลงทุนโดยตรงไม่ต่ำกว่าเดิม
- เปิดร่าง พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ธนาคารต้องระงับธุรกรรมต้องสงสัยภายใน 7 วัน รับจ้างเปิดบัญชีม้า คุก 3 ปี ประชาชนร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ หรือออนไลน์ รมว.คลังห่วงประชาชนถูกดูดเงิน เร่งทุกหน่วยงานป้องกันแก้ไข ธปท.เล็งประกาศเกณฑ์แลกเปลี่ยนข้อมูลและบล็อกบัญชีได้ทันที
- ครม. มีมติเห็นชอบให้เก็บค่าธรรมเนียม นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทย ในอัตราคนละ 150-300 บาท คาดมีผลประมาณ 1 มิ.ย.นี้ หวังทดแทนงบที่ใช้ดูแลนักท่องเที่ยว 300-400 ล้านบาทต่อปี
- จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลก ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่ 1.34 บาทต่อลิตร ออกไปอีกจนถึงวันที่ 20 พ.ค.นี้ ประกอบกับกองทุนน้ำมันในส่วนบัญชีน้ำมันมีรายรับ 516 ล้านบาทต่อวัน หรือ 14,455 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้กองทุนน้ำมันในส่วนบัญชีน้ำมันมีฐานะติดลบน้อยลง
*หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ. พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช (PQS) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง (Native Starch) แป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch) รวมถึงผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 15 ก.พ. นี้ ราคา IPO ที่ 6.00 บาท
- BCH (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 22.00 บาท ผู้ป่วยกลุ่ม Non-Covid (เงินสด + ประกันสังคม) เติบโตต่อเนื่อง ไตรมาส 3/65 คิดเป็น 83% ของคนไข้รวมเทียบกับไตรมาส 2/65 ที่ 55% พร้อมตั้งเป้าเพิ่มโค้วต้าผู้ป่วยประกันสังคมที่ 1.8 ล้านราย (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 ล้าน) ประเมินราคาหุ้นเริ่มประคองตัว Sideway สำหรับปีนี้เดินหน้าลงทุนสร้าง รพ. ตามแผน ล่าสุดซื้อที่ดิน 25 ไร่ 350 ลบ. สร้าง รพ.เกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ เริ่มสร้างปี 2567 เปิดปี 2569 DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 ที่ 3.3 พัน ลบ. และ 2 พัน ลบ. -51%YoY, -40%YoY ตามลำดับ
- PRM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท โมเมนตัมกำไรปกติไตรมาส 4/65 คาดยังแข็งแกร่งต่อเนื่องเพราะเรือ VLCC ลำที่ 3 ทำงานเต็มไตรมาส รวมถึงการ Reopening หนุนปริมาณขนส่งน้ำมันยังอยู่ในระดับที่ดี นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากบาทแข็งที่คาดมีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดกำไรปกติปี 2565-2566 +46% Y-Y และ +14% Y-Y ตามลำดับ ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรด 2023PER เพียง 12 เท่า ต่ำกว่าในอดีตก่อน COVID-19 ที่ราว 20 เท่า