DELTA พุ่งขึ้น 7.74% หรือ เพิ่มขึ้น 70 บาท มาที่ 974 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,933 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.12 น. จากราคาเปิด 934 บาท ราคาสูงสุด 978 บาท ราคาต่ำสุด 930 บาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) ดีดขึ้นมาแรงด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น ตอบรับผลประกอบการในไตรมาส 4/65 กำไรสุทธิ 4.2 พันล้านบาท ดีกว่าคาด มาจากยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และ GPM ทำได้ดีมาก รวมทั้งประกาศจ่ายเงินปันผล 4 บาท/หุ้น
นอกจากนี้ DELTA ยังแตกพาร์เป็น 0.1 บาท ตามที่ตลาดเคยคาดหวัง จะทำให้หุ้นมีสภาพคล่องดีขึ้น เพราะเป็นราคาที่นักลงทุนรายย่อยจับต้องได้ง่าย จากปัจจุบันราคาหุ้นสูงกว่า 900 บาท ซื้อขายขั้นต่ำล็อตละ 50 หุ้นเป็นเงิน 45,000 บาท แต่หากแตกพาร์แล้วราคาหุ้นระดับ 90 บาท ซื้อขายล็อตละ 100 หุ้นใช้เงินแค่ 9,000 บาท
อย่างไรก็ดี ยังให้ราคาเหมาะสม 610 บาทต่อหุ้น และหากผู้ถือหุ้นอนุมัติแตกพาร์จะทำให้ราคาเหมาะสมปรับลงเป็น 61 บาทต่อหุ้น
เชิงกลยุทธ์ แม้ผลประกอบการ DELTA ดีกว่าคาดอย่างต่อเนื่อง แต่มาจากฐานต่ำ ขณะที่จากนี้ไป DELTA จะเผชิญกับฐานกำไรที่สูงมากขึ้น นอกจากนี้ราคาหุ้นที่ 900 บาท คิดเป็น PER66 ที่ 70 เท่า สูงมากแล้ว เทียบกับการเติบโตในปี 66-67 ที่มองระดับ +10% ทำให้หุ้นไม่น่าดึงดูดในเชิงพื้นฐาน ขณะที่แรงเก็งกำไรจากราคาพาร์ที่ต่ำลง เป็นเพียงปัจจัยเชิง Sentiment ไม่ได้กระทบกับมูลค่าเหมาะสมของกิจการ
"Outlook ปี 66 เติบโตชะลอตัวจากกำไรที่มีฐานสูง" นายณัฐพล กล่าว