นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ศิครินทร์ (SKR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 10% จากปี 65 ปัจจัยสนับสนุนมาจากขยายตัวของรายได้การรักษาทั่วไปและศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางที่ต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มคนไข้กลับมาใช้บริการปกติและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1/66
แผนการดำเนินงานปีนี้บริษัทจะเดินหน้าเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์ ด้วยการเพิ่มสถาบันทางการแพทย์ใหม่ 3 สถาบัน ได้แก่ สถาบันทางเดินอาหารและตับ, สถาบันโรคหัวใจ และสถาบันหลอดเลือดสมองและระบบประสาท จากเดิมเปิดไปแล้ว 3 สถาบัน ได้แก่ สถาบันกุมารเวช, สถาบันกระดูกและข้อ, สถาบันสุขภาพเฉพาะทางสตรี รวมทั้งสิ้นเป็น 6 สถาบัน เพื่อรองรับการรักษาพยาบาลของกลุ่มคนไข้รักษาโรคเฉพาะทางด้วยการผ่าตัด ผ่านการนำเสนอ "เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์"
บริษัทยังวางแผนเพิ่มจำนวนผู้ประกันตนอีก 100,000 ราย จากเดิมจำนวนผู้ประกันตนที่เลือกเครือโรงพยาบาลศิครินทร์รวม ณ สิ้นปี 65 อยู่ที่ 350,000 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของโรงพยาบาลเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันเครือโรงพยาบาลศิครินทร์ มีฐานผู้ประกันสังคมตามโควต้า อยู่ที่ 600,000 ราย
"ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับกลุ่มศิครินทร์ ซึ่งแผนงานปี 66 เรามั่นใจว่า ศิครินทร์สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราได้พัฒนาศักยภาพทางการแพทย์เพื่อรองรับการรักษาโรคยากที่ซับซ้อน ภายใต้แนวคิด "เรื่องผ่าตัดไว้ใจศิครินทร์" นอกจากนี้ยังมีรายได้จากบริการโรงพยาบาลเคลื่อนที่ หรือ "SIKARIN Connect" มาสนับสนุน รวมทั้งการเข้ามาของกองทุนขนาดใหญ่ภายในประเทศ ยังถือหุ้นต่อเนื่องในระยะยาว" นายสุริยันต์ กล่าว
ผลประกอบการปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 5,711.25 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,011.70 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิ ( Net Profit ) ทั้งปีอยู่ที่ 17.92% สูงกว่าช่วงก่อน Covid-19 ที่อยู่ในระดับ 6-9% แม้บริษัทไม่มีรายได้จากโควิดหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดลดลง รัฐบาลยกเลิกการรับรักษาคนไข้ผ่านสถานพยาบาลผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) และกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้โรคโควิดเป็นโรคประจำถิ่น แต่บริษัทประสบความสำเร็จในการรักษาโรคยากซับซ้อนด้วยการผ่าตัด ส่งผลให้จำนวนคนไข้ผ่าตัดขยายตัวตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีรายได้จากบริการโรงพยาบาลเคลื่อนที่ หรือ "SIKARIN Connect" เข้ามาสนับสนุน