นายชัพมนต์ จันทรพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซุปเปอร์ คาร์บอน เอ็กซ์ จำกัด (SCX) บริษัทย่อยบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า SCX ได้ลงนามสัญญา กับ บริษัท เมฆา วี จำกัด หรือ Mekha V ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บมจ.ปตท. (PTT) ในการซื้อขายใบรับรองสิทธิ์การผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (RECs) โดยที่ผ่านมา SCX กับ Mekha V ได้มีการทำสัญญาซื้อขาย I-REC ระหว่างกันจำนวนมาก และตั้งเป้าขยายปริมาณการซื้อขายกับ Mekha V ในอนาคตให้มากขึ้นอีกหลายเท่าตามความต้องการของลูกค้า
SCX เป็นผู้ให้บริการจัดหาและรวบรวมผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Product) อาทิ I-REC, TVER และคาร์บอนมาตรฐานอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีนโยบายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
ปัจจุบัน SCX มีความสามารถในการออก REC จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้กลุ่มบริษัทในเครือของ SUPER เป็นจำนวนกว่า 700,000 RECs ในปี 65 และพร้อมขยายเป็น 1,000,000 RECs ต่อปีภายในปีนี้ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วยมาตรฐาน The International REC (I-REC Standard) ซึ่งหลายโครงการโรงไฟฟ้า RE (Solar/Wind) ของ SUPER อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนกับ The International REC Standard Foundation พร้อมเพื่อการขยายปริมาณเพื่อตอบสนองความต้องการการชดเชยคาร์บอนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดย REC ถือเป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถนำไปชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม ประเภทที่ 2 (Scope 2)
นายชาญ กุลภัทรนิรันดร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจใหม่ PTT กล่าวว่า การร่วมมือกันจะเป็นการต่อยอดนวัตกรรมพลังงานสะอาด มุ่งสนับสนุนเป้าหมายเพื่อลดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ผ่านการซื้อขายใบรับรองสิทธิ์การผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates หรือ RECs) โดย Mekha V เป็นบริษัท Startup น้องใหม่ของ PTT ดำเนินธุรกิจ AI Robotics and Digitalization และรองรับการลงทุนธุรกิจใหม่ตามทิศทางกลยุทธ์ของ PTT
รวมถึงเป็นตัวแทนให้บริการซื้อขายพลังงานสะอาด และผลิตภัณฑ์เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Product) ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม ให้แก่บริษัทที่ต้องการจัดหาพลังงานหมุนเวียนให้สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานไฟฟ้าสะอาดได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases Emission Reduction) ของภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งสอดคล้องตามกลยุทธ์ของ ปตท. ในธุรกิจทางด้านพลังงานหมุนเวียน
"การร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ที่ทั้งสองฝ่าย ได้เป็นกลไกที่สำคัญช่วยผลักดันการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยสู่เวทีโลก ภายใต้เงื่อนไขของประชาคมโลกเรื่อง Carbon Neutrality และ Net Zero" นายชาญ กล่าว