เทรนด์การลงทุนยุคใหม่ที่มีการแปลงทรัพย์สินมาอยู่ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน หรือ Investment Token เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกของการลงทุนโดยนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนขับเคลื่อนให้เกิดทางเลือกที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนอย่างครอบคลุม
การออก Investment Token จะมีการนำเทคโนโลยี Blockchain และการจัดทำสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) มาประยุกต์การทำธุรกรรมให้มีความโปร่งใส ปลอดภัย รวมไปถึงบริหารจัดการการระดมทุนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการนำทรัพย์สินที่จับต้องได้ อาทิ งานศิลปะ ผลงานลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา โฉนดที่ดิน มาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัล หรือ ที่เรียกว่าการ Tokenization เพื่อเพิ่มโอกาสนักลงทุนในการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
การพัฒนารูปแบบการลงทุนดังกล่าว ส่งผลให้ Investment Token ที่นำทรัพย์สินของผู้ออกมาหนุนหลังในการออกโทเคนดิจิทัล หรือ Asset-Backed Token ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของโทเคนดิจิทัล เปรียบเสมือนหลักประกันที่จะสร้างความมั่นใจในการเป็นเจ้าของให้กับนักลงทุนมากขึ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ โดยทรัพย์สินที่จะนำมาหนุนหลังในการออกมีหลากหลายประเภท อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ อาคารสำนักงาน หรือ คอนโดมิเนียมที่มีราคาสูง
ในอดีตการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สักยูนิต นักลงทุนจะต้องมีรายได้ หรือเงินสดสะสมจำนวนมาก และจำเป็นต้องมีเครดิตทางการเงินที่ดี ในกรณีที่ต้องการใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ยิ่งไปกว่านั้นหากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ราคาต่อยูนิตจะมีราคาค่อนข้างสูงและมีแนวโน้มราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้แม้อสังหาริมทรัพย์จะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ก็ถือเป็นความท้าทายอย่างมากในการเป็นเจ้าของ หรือ เข้าลงทุน
แต่ปัจจุบันมีวิธีที่ง่ายขึ้น ด้วยการนำคุณลักษณะเฉพาะของโทเคนดิจิทัลมาใช้สำหรับการระดมทุนด้วยการออกโทเคนดิจิทัลตามปริมาณตารางนิ้วของพื้นที่ที่นำมาเสนอขาย ทำให้นักลงทุนเสมือนเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในหน่วยย่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (Fractionalized ownership) โดยนักลงทุนที่ถือโทเคนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทน อาทิ ค่าเช่าสุทธิตลอดอายุของโครงการ หรือผลตอบแทนจากการจำหน่ายทรัพย์สินของโครงการสุทธิ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าถึงการลงทุนง่ายขึ้น อีกทั้งเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
หากยกตัวอย่างของ Asset-Backed Token ที่มีทรัพย์สินอ้างอิงเป็นคอนโดมิเนียมราคาสูง หรือ Condo-Backed Token ที่ใกล้ตัวมากขึ้น RealX Investment Token ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อเร็วๆนี้ โดย Token X ในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) นั้น คงเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน
ด้วยรูปแบบการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัล ที่แบ่งหน่วยโทเคนดิจิทัลตามปริมาณตารางนิ้วของคอนโดมิเนียมที่เสนอขาย (Fractionalization) โดยราคาเสนอขาย 1 โทเคนดิจิทัลใกล้เคียง 1 ตารางนิ้ว ทำให้นักลงทุนมีโอกาสสามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมทำเลศักยภาพสูง ครอบคลุมพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือ Central Business District (CBD) ได้แก่ พร้อมพงษ์ พญาไท และ ทองหล่อ ซึ่งเป็นทำเลที่มีที่ดินจำกัด มีแนวโน้มอุปทานใหม่ในพื้นที่ที่น้อยลง ราคาจึงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ที่ตั้งของแต่ละโครงการยังอยู่ใกล้บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS รวมถึงสะดวกต่อการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่น รายล้อมโครงการด้วยสถานที่ต่าง ๆ ที่ครบครัน อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ร้านอาหาร สถานบันเทิง ฯลฯ จึงสามารถรองรับวิถีชีวิตที่หลากหลาย
ทั้งนี้จากข้อมูลของกรมธนารักษ์ พบว่าราคาการประเมินที่ดินที่นำไปใช้เป็นฐานในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งภาษีอากรและค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ในรอบปี 2566-2569 ทั่วประเทศเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากฐานเดิม 8.93% โดยที่ดินบริเวณดังกล่าว มีราคาประเมินอยู่ประมาณระหว่าง 750,000-1,000,000 บาทต่อตารางวา