นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดพักฐาน สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย แม้บ้านเราจะมีข่าวดีเรื่องการเลือกตั้ง แต่บรรยากาศการลงทุนภายนอกประเทศไม่ค่อยดี หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปออกมาดีกว่าที่คาด เป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันตลาดประเมินเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยไปที่ 5.75% สนับสนุนอัตราพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 4% กดดันเงินทุนต่างชาติยังเป็นลบอยู่
ให้แนวรับไว้ที่ 1,660 จุด และแนวต้าน 1,670-1,675 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,129.59 จุด ร่วงลง 697.10 จุด หรือ -2.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,997.34 จุด ลดลง 81.75 จุด หรือ -2.00% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,492.30 จุด ดิ่งลง 294.97 จุด หรือ -2.50%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,265.99 จุด ลดลง 207.11 จุด หรือ -0.75%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,512.49 จุด ลดลง 17 จุด หรือ -0.08% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,292.05 จุด ลดลง 14.47 จุด หรือ -0.44%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ก.พ.) 1,668.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.94 จุด (+0.66%) มูลค่าการซื้อขาย 66,040.26 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,226.02 ลบ.เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. (21 ก.พ.)ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 76.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ก.พ.) อยู่ที่ 6.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.68 อ่อนค่าหลังหลายปัจจัยหนุนดอลลาร์แข็งค่า จับตา Flow-รายงานเฟด
- ประยุทธ์" ประกาศยุบสภาต้น มี.ค.ยึดไทม์ไลน์เลือกตั้ง กกต.วันที่ 7 พ.ค. "วิษณุ" ระบุนายกฯ หารือพรรคร่วมรัฐบาลเคาะวันยุบ ชี้รัฐบาลรักษาการได้ถึง ส.ค. สั่งเสนอ โครงการเร่งด่วนใน 1-2 สัปดาห์ "ศาลรัฐธรรมนูญ" นัด 3 มี.ค.ตีความปมแบ่งเขตเลือกตั้ง "หอการค้า" ระบุการเมืองชัดเจนขึ้น ส.อ.ท.หวังช่วงเปลี่ยนผ่านขั้วอำนาจเป็นไปด้วยดี สื่อโฆษณาหวังเงินสะพัด "แอตต้า" ชี้ยุบสภาไม่กระทบท่องเที่ยว
- ครม. มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีวงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท ซึ่ง ธอส. สนับสนุนสินเชื่อให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในดอกเบี้ยคงที่ 3% ในช่วง 5 ปีแรก วงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อรายต่อหลักประกัน และมีระยะเวลากู้ยืมสูงสุด ไม่เกิน 40 ปี ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้วันนี้ถึงวันที่ 30 ธ.ค.68 หรือจนกว่าสินเชื่อเต็มกรอบวงเงิน
- เปิด 10 อันดับผู้ส่งออกยักษ์ใหญ่ไทยปี 65 ทำรายได้รวมกันกว่า 2 ล้านล้านบาท "โตโยต้า" ปาดหน้า "เวสเทิร์น ดิจิตอลฯ" ขึ้นเบอร์ 1 "ซีเกทฯ" รั้งเบอร์ 3 เหนียวแน่น สภาอุตฯมั่นใจส่งออกรถยนต์ปี 66 ทะลุ 1.05 ล้านคัน สวนกระแสเศรษฐกิจโลกซบ เร่งเครื่องเจาะตลาดใหม่แทนอเมริกา-ยุโรป
- แบงก์ชาติห่วงกลุ่มรายได้ยังไม่กลับมาเต็มที่จากเศรษฐกิจฟื้นตัวกระจุก หลังสัญญาณเอ็นพีแอลเดือนต่อเดือนปรับเพิ่ม จากยอดผู้ได้รับความช่วยเหลือจากแบงก์รัฐไตรมาส 4/65 พุ่ง เร่งประสานแบงก์เจ้าหนี้ เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ประคองกลุ่มเปราะบาง
*หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ. เรดดี้แพลนเน็ต พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ เทคโนโลยี (Technology) ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ โดยใช้ชื่อย่อ "READY" ราคา IPO หุ้นละ 7.30 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 31.74 เท่า
- PTG (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 16 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว Volume ขายกลับมาเพิ่มขึ้นจากกิจกรรม ศก. ในประเทศกลับมาฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ ค่าการตลาดปรับตัวขึ้นหลังภาครัฐคืนค่าการตลาดน้ำมันดีเซลเป็นปกติที่ 2 บาท จากเดิมคุมเพดานที่ 1.4 บาทต่อลิตร
- BCPG (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.80 บาท แม้ทิศทางกำไรปกติในไตรมาส 1/66 จะยังไม่ดี กดดันจากปริมาณขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาวที่เป็นช่วง Low Season รวมถึงยังมีการหยุดผลิตชั่วคราวเพื่อก่อสร้างสายส่ง นอกจากนี้ยังมี Solar Farm ในประเทศไทยบางโครงการที่ Adder หมดลง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าราคาหุ้นได้ลงมาสะท้อนปัจจัยลบดังกล่าวแล้ว โดยกำไรที่ลดลงในปี 66 บางส่วนจะชดเชยด้วยการปรับขึ้นค่า Ft ขณะที่เริ่มเห็นบริษัทประกาศเข้าลงทุนโครงการใหม่มาช่วยเติมส่วนที่หายไป เช่น การเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ กำลังการผลิตตามสัดส่วนรวม 151 Mwe สามารถรับรู้ผลประกอบการได้ทันที โดยคาดกำไรราว 200-300 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ยังมีธุรกิจคลังจัดเก็บน้ำมันและท่าเทียบเรือ (เอเชียลิงค์ เทอมินัล) ที่จะเริ่มรับรู้กำไรเข้ามา 100-200 ล้านบาท/ปี