นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 66 บริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาระดับการเติบโตตามแผนงานได้ เป็นผลมาจากการรักษาฐานลูกค้าตลาดเดิม โดยเฉพาะตลาดอินโดนีเซีย บราซิล รัสเซีย ที่มีการเติบโตสูงและถือเป็นตลาดดาวรุ่งของบริษัทฯ และยังมีแผนขยายตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยร่วมออกบูธในงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ ในต่างประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรงมากขึ้น
ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 65 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 198.49 ล้านบาท ลดลง 44.73% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากภาวะการขาดแคลนด้านพลังงาน ซึ่งส่งผลกระทบทั่วโลกทำให้ราคาพลังงานและสินค้าอื่นซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยสูงขึ้น
อีกทั้งบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตติดตั้ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีการเปิดดำเนินงานผลิตบางส่วนในไตรมาส 3/65 ทำให้บริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) อยู่ที่ 76% ลดลงจากปี 64 และในการเปิดดำเนินงานเครื่องจักรใหม่ การทำงานในช่วงแรกมีการปรับปรุงระบบการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับเครื่องจักรใหม่ ส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการผลิต (Efficiency) ลดลง ทำให้ส่วนของค่าใช้จ่ายต้นทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลกำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ลดลง
แต่ทั้งนี้บริษัทคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) และประสิทธิภาพการผลิต (Efficiency) จะกลับมาอยู่ในอัตราปกติในช่วงไตรมาส 2/66