นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 66 ว่า มีแนวโน้มการเติบโตโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ จากธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจด้านกัญชาทางการแพทย์ รวมถึง ธุรกิจโลจิสติกส์ เสริมการเติบโตให้แข็งแกร่ง รับภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว และการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก
โดยธุรกิจหลักในด้าน BOS ของ BC ที่อยู่ในส่วนของ Operate ในช่วงไตรมาส 4/65 มีผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับโครงการในกรุงเทพฯ ในขณะที่บางโครงการในต่างจังหวัดได้ผลตอบรับดีขึ้นกว่าในช่วงโควิด ได้รับปัจจัยบวกจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว นอกจากนี้ โครงการรีเทล Summer Point มีอัตราการเช่าเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 80% และยังได้ "Woody World" มาเป็นหนึ่งในผู้เช่าหลัก อีกทั้งได้แรงสนับสนุนหลักจากทีมบริหารอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่ง ที่พร้อมผลักดันให้ธุรกิจ BOS ในหลายโครงการสร้างรายได้ที่เติบโตและมั่นคงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้
ปัจจุบันธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ BOS ของ BC ด้านโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ อยู่ระหว่างดำเนินการ (Operate) 10 โครงการ โดยได้เปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ ในไตรมาส 4/65 คือ โจโน่ แบงคอก อโศก (โจโน่ แบงคอก) ในสุขุมวิท 16 และ ไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นี่ย์ฮับ (ไอบิส นิมมาน) ที่จะเข้ามาหนุนรายได้ปี 66 ให้เติบโตได้มากขึ้น
อีกทั้งในเดือน ม.ค.66 BC ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินบนถนนสุขุมวิท 5 ผ่านบริษัทย่อย เพื่อพัฒนาเป็นอีกหนึ่งโรงแรมในแบรนด์ Jono (โจโน่) ของกลุ่มบริษัท โดยมีแผนการก่อสร้างจะเริ่มทันทีเนื่องจากโครงการได้ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพและต่อยอดจากโครงการโอ๊ควู้ด สตูดิโอส์ ที่เราสามารถปิดดีลได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันการพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ Cove Hill บนถนนเจริญกรุง ได้อยู่ในช่วงดำเนินการและคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/66
ขณะที่ธุรกิจกัญชาทางการแพทย์ ภายใต้ บริษัท บีสโปค ไลฟ์ ไซเอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน ในการเป็นสถานที่โรงเรือนเพาะปลูกและศูนย์วิจัย ซึ่งในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จกับธุรกิจปลายน้ำ ล่าสุดเปิดตัวสาขาที่ 3 ในซอยสุขุมวิท 11 ภายใต้แบรนด์ "KANA" หรือ "คณา" ช่วงก่อนสิ้นปี 65 ต่อยอดความสำเร็จของร้าน KANA Pure ที่ สาขา โจโน่ แบงคอก และ คณาคลินิกการแพทย์แผนไทย (KANA Thai Traditional Medicine Clinic) ที่ซัมเมอร์พ้อยท์ และแตะจุดคุ้มทุน (break-even) ที่ระดับสาขาทันทีในเดือน ม.ค.66
นอกจากนี้ กลุ่มบีสโปค ยังเดินหน้าขยายพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิต รองรับแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมของร้านค้า/คลินิกที่จะเริ่มต้นในไตรมาส 1/66 นับเป็นการต่อยอดจุดแข็งในฐานะผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ BOS ที่มีความพร้อมและตอบสนองต่อเทรนด์ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่สร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
"สำหรับในปี 66 มองว่าจะเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงที่ผ่านมาเราสามารถสร้างรายได้กระจายกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศอื่นๆ มากขึ้น สะท้อนจากผลการดำเนินงานของธุรกิจ Operate ที่เติบโตชัดเจน อีกทั้งตอนนี้ประเทศจีนเปิดประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว ก็จะยิ่งสร้างการเติบโตได้อย่างทวีคูณมากยิ่งขึ้น ด้วยจุดเด่นของเราคือโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์อยู่บนทำเลที่ดี มีศักยภาพ บวกกับเราปรับช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า พร้อมเพิ่มทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ขณะที่ธุรกิจกัญชาทางการแพทย์ก็เติบโตค่อนข้างเร็วตามการขยายสาขาในสถานที่ที่เหมาะสม เข้าถึงง่าย ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขา 20 สาขา มั่นใจได้ว่าปีนี้ BC จะโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งแน่นอน" นายปรับ กล่าว
นอกจากนี้ BC ยังได้ขยายแผนธุรกิจไปสู่ธุรกิจขนส่งและจัดเก็บสินค้า ผ่าน บริษัท บูทิค โลจิสติกส์ จำกัด (บริษัทย่อย) ภายใต้แบรนด์ GO Storage ให้เช่าพื้นที่และบริหารคลังสินค้า พร้อมจัดส่ง อย่างครบครัน ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจ start up กลุ่มร้านค้าออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันให้บริการพื้นที่อยู่ที่ 500 ตารางเมตร ณ สาขาแรกที่โครงการซัมเมอร์พ้อยท์ ในเดือน พ.ย.65 เพื่อกระจายความเสี่ยง และสร้างโอกาสเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับผลประกอบการทางการเงินรวมในไตรมาส 4/65 BC มีรายได้รวม 393.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 649.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 128.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกำไรจากการขายเงินลงทุนในโครงการโอ๊ควู้ด สตูดิโอส์ สุขุมวิท แบงค็อก (โอ๊ควู้ด สตูดิโอส์) ในซอยสุขุมวิท 36 จำนวน 295.1 ล้านบาท และส่งผลให้รายได้รวมในปี 65 อยู่ที่ 538.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 112.2%
ขณะที่ ไตรมาส 4/65 BC มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 217.9 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 53.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 206.3 ล้านบาท จากความสำเร็จของการขายเงินลงทุนในโครงการโอ๊ควู้ด สตูดิโอส์ ที่ BC ลงทุนอยู่ในสัดส่วน 59.5% ด้วยมูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท รวมถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจโรงแรมและศูนย์การค้าให้เช่า ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่องบการเงินไตรมาส 4/65 ได้อย่างโดดเด่น และทำให้ผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติในปี 65 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่ 49.6 ล้านบาท จาก ขาดทุน 220.6 ล้านบาทในปี 64
โดยในเดือน ม.ค.66 Boutique International Holdings Limited (BIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในต่างประเทศที่ BC ถือหุ้นตรงในสัดส่วน 100% จ่ายปันผลเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 200 ล้านบาท จากเงินสดที่ได้รับจากการขายโครงการโอ๊ควู้ด สตูดิโอส์ ซึ่งเงินปันผลดังกล่าวได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จากการได้รับอนุมัติจดทะเบียนเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ โดยกรมสรรพากร
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 65 BC มีขาดทุนสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งสิ้น 101.7 ล้านบาท จึงงดจ่ายปันผลประจำปี อย่างไรก็ดี บริษัทอาจสามารถจ่ายปันผลระหว่างกาลได้ หากพิจารณาแล้วว่ามีเงินสดและเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ รวมทั้งสามารถดำเนินการได้ตามกฎเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง