CONSENSUS: TRUE แกร่งปิดดีลรวม DTAC โอกาสพลิกกำไรเร็ว เบ่ง Market Cap โบรกให้เป้า New Co 9.23-10.40

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 23, 2023 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลประกอบการในปี 2565 ของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUEE) หรือ ทรูเดิม ทำนักลงทุนอึ้งกับขาดทุนสุทธิที่สูงถึง 1.8 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปี 64 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 1,428 ล้านบาท หลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายในการขยายโครงข่าย และดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น 10.4% รวมถึงการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน

แต่ความเห็นโบรกเกอร์ต่างก็มองว่าบริษัทใหม่ (New Co) หลัง TRUEE ควบรวม บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) จะพลิกกลับมามีผลประกอบการดีขึ้น ขาดทุนลดลงจนถึงประเมินว่าจะเห็นพลิกมาเป็นกำไร จากที่ค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนถูกตัดออกไป และการบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

TRUE เดิม ภายใต้ชื่อ TRUEE ชั่วคราวและหยุดช่วงการซื้อขาย (17 ก.พ.-2 มี.ค.66) ซึ่งในวันที่ 22 ก.พ.66 มีการประชุมผู้ถือหุ้นทั้งสองบริษัทร่วมกันและที่ประชุมอนุมัติการควบรวมกิจการทั้ง TRUEE และ DTAC จะสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล และบริษัทใหม่จะเข้าซื้อขายแทนในวันที่ 3 มี.ค.66 ในชื่อ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ชื่อย่อ TRUE ราคา 8.51 บาท คำนวณจากมูลค่าตลาด (Market Cap) ของ TRUEE และ DTAC ปิด ณ วันที่ 17 ก.พ.66 รวมกันหารด้วยจำนวนหุ้นบริษัทใหม่

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า งบการเงินในไตรมาส 4/65 ของ TRUEE แย่กว่าที่คาด โดยขาดทุน 1.31 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีรายการพิเศษอยู่มาก ดอกเบี้ยจ่ายยังเพิ่มอยู่เพราะกระแสเงินสดไม่พอจ่ายเป็นงบลงทุนก็ต้องกู้เพิ่ม แต่คาดว่าหลังจากควบรวมกันแล้วงบการเงินในปี 66 ของบริษัทใหม่น่าจะเริ่มเห็นกำไรได้เร็ว ถ้าไมิ่ไตรมาส 1/66 ก็น่าจะเห็นในไตรมาส 2/66 เมื่อควบรวมกับ DTAC แล้วจะมีการปรับมาตรฐานบัญชีให้เท่ากัน ซึ่งในช่วงม.ค.-ก.พ.66 ก็จะมีการปรับมูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สินและหนี้สินเพื่อสะท้อนมูลค่าทางเศรษฐกิจของธุรกิจในอนาคตในบริษัทใหม่ โดยหลังปรับแล้วก็มาลุ้นว่าจะมีกำไรหรือขาดทุน โดยสิ่งที่น่าสนใจที่ติดตามบริษัทใหม่จะเห็นงบในเดือนมี.ค.66

โดยในส่วนหนี้สิน TRUEE มีหนี้อยู่ราว 3 แสนล้านบาท ขณะที่ DTAC มีหนี้อยู่ 8 หมื่นล้านบาท

          โบรกเกอร์                 คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย (บาท)
          เมย์แบงก์                   ซื้อ                 9.23
          กสิกรไทย             Outperform              10.32
          หยวนต้า                    ซื้อ                10.40

นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวล คือ Culture การทำงานร่วมกัน ซึ่ง TRUEE มาจากกลุ่มซีพี ที่มีวัฒนธรรมแนวตะวันออก ขณะที่ DTAC บริหารที่ยึดหลักการ มีมาตรฐานสูง และมีวัฒนธรรมแนวตะวันตก เป็นความท้าทายที่จะเดินหน้าไปในแนวทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดหวังจะเห็นกำไรในบริษัทใหม่และสามารถขึ้นมาแข่งขันได้อย่างสูสีกับรายใหญ่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ที่มีรายได้ราว 2 แสนล่านบาท กำไร 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ TRUEE และ DTAC รวมกันรายได้ก็ใกล้เคียง 2 แสนล้านบาท แต่กำไรแทบไม่มี ฉะนั้น จุดนี้ตลาดคาดหวังว่าเมื่อรวมกันแล้วโอกาสลดค่าใช้จ่ายทำได้ก็จะเพิ่มกำไรได้ และจะมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกำไรน่าจะเติบโตต่อไปได้

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย ประเมินราคาเป้าหมายของบริษัทใหม่ หรือ TRUE ที่ 10.32 บาท โดยเชื่อว่าการรวมกิจการจะทำให้มีกำไรได้เร็ว และจะได้รับประโยชน์จากการควบรวมกิจการที่จะทำให้องค์กรใหญ่ขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากมีกำไรมากขึ้นโอกาสที่มูลค่าหลักทรัพย์ราคาตลาด (Market Cap) จะสูงขึ้น

ADVANC มีมูลค่าหลักทรัพย์ราคาตลาดที่ 6.2 แสนล้านบาท ขณะที่ DTAC และ TRUE รวมกันมีมูลค่าตลาดราว 3 แสนล้านบาท (DTAC มีมูลค่าตลาด 1.2 แสนล้านบาท TRUE มีมูลค่าตลาด 1.7 แสนล้านบาท)

ด้าน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า TRUEE ขาดทุน 1.31 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/65 หากไม่รวมรายการพิเศษ ผลขาดทุนหลักสุทธิในไตรมาส 4/65 จะอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท (เทียบกับผลขาดทุนหลักที่ 1.3 พันล้านบาทในไตรมาส 4/64 และ 2.6 พันล้านบาทในไตรมาส 3/65) แย่กว่าคาด

แต่รอลุ้นทีมผู้บริหารใหม่ประกาศแผนธุรกิจในประเด็น 1) การสร้างมูลค่า synergy ร่วมกัน และ 2) การประหยัดต้นทุนค่าเสื่อมราคาจากการตัดจาหน่ายสินทรัพย์และการปรับอายุ useful life ของสินทรัพย์ใหม่ ให้ราคาเป้าหมายหลังการรวมกิจการที่ 9.23 บาท/หุ้น สำหรับ TRUE บริษัทใหม่

ทั้งนี้ มูลค่าตามราคาตลาดรวมกันของ TRUE เดิม(ปัจจุบันใช้ชื่อ TRUEE) และ DTAC ในวันซื้อขายวันสุดท้าย (17 ก.พ.66) จะสามารถนามาคำนวณเราคาตลาดของ TRUE ใหม่ได้ที่ 8.51 บาท/หุ้น จะเริ่มซื้อขายในชื่อ TRUE ในวันที่ 3 มี.ค.66

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)ระบุว่า ภาพรวมทั้งปี 65 TRUEE ขาดทุนสุทธิราว 1.8 หมื่นล้านบาท แต่หากตัดรายการพิเศษ TRUEE จะขาดทุนปกติราว 1.0 หมื่นล้านบาทถือว่าสูงมาก แต่มาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ Amalgamation ซึ่งเป็น one-time และการล้างบ้านเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานหลายๆอย่าง ไม่กระทบกับบริษัทใหม่ในอนาคต เช่น การตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่ซ้าซ้อนล่วงหน้า หรือการตั้ง impairment ในสินทรัพย์ที่จำเป็น ดังนั้น ในระยะถัดไป NewCo มีโอกาสที่จะมีผลการดำเนินที่ดีขึ้นเพราะไม่มีรายการดังกล่าวมากดดัน

ประเมินมูลค่าเหมาะสมของบริษัทใหม่ (TRUE) ไว้ที่ 10.40 บาทต่อหุ้น มองว่าตลาดจะกลับมาให้น้าหนักกับ Synergy ที่จะเกิดขึ้นใน NewCo ที่ยังไม่ถูกสะท้อนไปในราคาหุ้นอย่างเต็มที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ