นายชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับลงตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้รับแรงกดดันการรายงานดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ออกมาดีต่อเนื่อง และยังไม่เห็นสัญญาณการชะลอตัวลง สะท้อนความกังวลในการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกกดันตลาดหุ้น
ขณะที่ภาพปัจจุบันในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ และตลาดตอบรับข่าวการเลือกตั้งไปมากแล้ว อีกทั้งผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ออกมาสร้างความผิดหวังให้กับตลาด ทำให้ยังคงเห็นแรงกดดันจากกระแสเงินทุน (Fund Flow) ไหลออกต่อเนื่อง
ให้แนวรับที่ 1,620-1,625 จุด แนวต้าน 1,640-1,645 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,816.92 จุด ลดลง 336.99 จุด หรือ -1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,970.04 จุด ลดลง 42.28 จุด หรือ -1.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,394.94 จุด ลดลง 195.46 จุด หรือ -1.69%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 27,322.73 จุด ลดลง 130.75 จุด หรือ -0.47%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,821.03 จุด ลดลง 189.01 จุด หรือ -0.94% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,257.00 จุด ลดลง 10.16 จุด หรือ -0.31%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ก.พ.) 1,634.27 จุด ลดลง 18.45 จุด (-1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 67,192.18 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 5,114.17 ลบ. เมื่อวันที่ 24 ก.พ.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(24 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.23% ปิดที่ 76.32 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.พ.) อยู่ที่ 5.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.97 อ่อนค่าสุดตั้งแต่ต้นปี คาดกรอบวันนี้ 34.90-35.15
- สรรพากรลุยแก้กฎหมาย ปราบธุรกิจเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม เร่งเข็น "รีเวิร์ส ชาร์จ" ตีกรอบให้ผู้ซื้อสินค้า-บริการ เป็นผู้นำส่งภาษี VAT พร้อมเปิดทางให้ผู้ผลิตรายใหญ่ หัก-นำส่งภาษีซื้อได้เอง ป้องกันถูกซาเล้งมั่วนิ่ม ใช้ใบกำกับภาษีปลอม กระทบโรงผลิตเหล็กถูกหางเลขเข้าข่ายโกงเงินภาษี
- "เพื่อไทย" ลั่นไม่ประเคนเก้าอี้นายกฯ ให้ใคร "อิ๊ง" พร้อมรับแคนดิเดตนายกฯ รอกระบวนการ กก.บห. ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่เชียงใหม่อู้กำเมืองอ้อนสาวก
- คมนาคมทิ้งทวนบิ๊กโปรเจ็กต์แสนล้าน เฮโลดันเข้าครม.ก่อนยุบสภา รถไฟฟ้า ทางด่วน แก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน ให้เอกชนเดินหน้าก่อสร้างขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
*หุ้นเด่นวันนี้
- SCB (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 160 บาท ระยะสั้นปัจจัยบวกประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีหลังปี 65 ที่ 5.19 บาท ให้ Dividend yield 5.1% XD 17 เม.ย., ปีนี้คาดกำไรสุทธิโต 37%yoy จากสินเชื่อขยายตัวและ NIM เพิ่มขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น
- PRM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ออกมาดีกว่าตลาดคาด 26% ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้เรือ VLCC ลำที่ 3 เต็มไตรมาส รวมถึงการ Reopening หนุนปริมาณขนส่งน้ำมันยังอยู่ในระดับที่ดี จบปี 2565 กำไรสุทธิ +57% y-y โมเมนตัมปี 66 คาดว่ายังเติบโตได้ต่อเนื่องจากเรือขนส่งน้ำมันทั้งในและระหว่างประเทศที่ยังโตแกร่ง การบัรู้ VLCC ลำที่ 3 เต็มปี ค่าเช่าเรือ FSU ที่สูงขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรด 2023PER เพียง 12 เท่า ต่ำกว่าในอดีตก่อน COVID-19 ที่ราว 20 เท่า
- MINT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.25 บาท รายงานไตรมาส 4/65 กำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาท ลดลง QoQ เนื่องจากผ่านช่วง high season ของการเข้าพักโรงแรมในยุโรป แต่พลิกกำไร YoY จากการฟื้นตัวของทุกส่วน โดยเฉพาะโรงแรมในไทยที่เป็น peak season ส่งผลให้ RevPar ปรับเพิ่มขึ้น ธุรกิจอาหารเติบโตทั้งในไทยและต่างประเทศ (ยกเว้นจีน) ส่วนปี 66 คาดกำไร 5.5 พันล้านบาท ฟื้นตัว +30%YoY หนุนจากโรงแรมในยุโรปมีทิศทางเป็นบวกในช่วง 1H แม้จะเป็น Low Season แต่จะเห็นการเติบโต YoY ของ ADR จาก Demand ลูกค้าภาคธุรกิจ ขณะที่ต้นทุนค่าไฟล็อกราคาไปแล้วราว 60% ต่ำกว่าตลาด ส่วนโรงแรมในไทยรับอานิสงส์นักท่องเที่ยวไหลเข้าและการเปิดประเทศของจีนช่วยหนุนให้ภาพรวม