นายยงศักดิ์ เอกปรัชญาสกุล กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจการขายและการตลาด บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY)เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการขยายช่องทางการขายรูปแบบใหม่ ด้วยการแต่งตั้งบริษัท แอสเธน มิวสิค จำกัด ในเครือบริษัท แอส เซอร์ทิฟ จำกัด มืออาชีพทางด้านธุรกิจขายตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายซีดีเพลงของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ในรูปแบบขายตรง (Knock Door) แต่เพียงผู้เดียว
ในปี 2550 ที่ผ่านมา มีรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 60 ล้านบาท ซึ่งแบ่งสัดส่วนการขายได้ คือ อัลบั้มรวมฮิต 66.56 % อัลบั้มลูกทุ่ง 15.08 % อัลบั้มสตริง 7.63% อัลบั้มคอนเสิร์ต 7.41% อัลบั้มสากล 2.92% อัลบั้มเพื่อชีวิต 0.33 % อัลบั้มวรรณกรรม 0.04 % และอัลบั้มบรรเลง 0.005 %
นายยงศักดิ์ มั่นใจว่า Physical Product ยังเป็นที่ต้องการ เพราะยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีพฤติกรรมชอบฟังเพลงคุณภาพจากซีดี แต่ไม่ค่อยมีเวลาไปเดินเลือกซื้อด้วยตัวเอง ซึ่งกลุ่มคนนี้นอกจากจะมีกำลังซื้อสูงแล้ว ยังมีแบรนด์รอยัลตี้ต่อศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบสูงด้วย ดังนั้น หากรุกช่องทางการขายถูกจุดตรงกลุ่มเป้าหมายก็ขายได้แถมขายได้ดีด้วย
"ทุกเช้าพนักงานแต่ละคนจะแบกซีดีเพลงใส่หลังไปเดินขายวันละ 40-50 แผ่น ถ้าเขาไปเคาะประตูขายแล้วเจอคนรับใช้มาเปิด เขาก็หยิบลูกทุ่งมาขาย แต่ถ้าเขาเจอแม่บ้านมาเปิดก็หยิบเพลงวรรณกรรม อาทิ อรวี สัจจานนท์, สุนทรภรณ์มาขาย แต่ถ้าเจอวัยรุ่นก็หยิบสตริงมาขาย คือไม่ว่าใครจะมาเปิดประตูเขาสามารถขายได้หมด" นายยงศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ยังจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยที่ชอบฟังซีดี ได้แก่ คนรับใช้ แม่บ้าน วัยรุ่น คนทำงาน โดยจะเพิ่มพนักงานขายให้ครบ 250 คน จากปัจจุบัน 200 คน เพื่อรองรับแผนขยายพื้นที่จำหน่ายซีดีเพลงไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ จากปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
GRAMMY ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีรายได้จากการขายตรงซีดีเพลง 100 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. — มี.ค. 51) มีรายได้เฉลี่ย 6 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้เฉลี่ย 5 ล้านบาทต่อเดือน
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--