นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 10% เป็น 10,000-11,000 ล้านบาท จากการเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 68 รวมเป็น 2,600 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,608.32 เมกะวัตต์ และมีรายได้อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท จากปี 66
นอกจากนี้จะต่อยอดจากธุรกิจโรงไฟฟ้าเพื่อสร้างงมูลค่าเพิ่ม โดยการเข้าสู่ธุรกิจจัดหาใบรับรองสิทธิการผลิตพลังงานหมุนเวียน และคารบ์อนเครดิต มุ่งเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงการนำนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจให้ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้พลังงานในอนาคต เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท
ปัจจุบัน SUPER มีทั้งโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทั้งในและต่างประเทศ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคาร (โซลาร์รูฟท็อป) และโครงการการขยายงานสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) และโครงการ SPP HYBRID สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 65 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.65) มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,571.41 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 732.54 ล้านบาท จากปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย และในประเทศเวียดนาม จากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ค่าความเข้มแสงเพิ่มขึ้น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม HBRE Chu Prong Wind Power Farm กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ที่รับรู้รายได้เต็มปี จากจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม
นอกจากนี้บริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานความร้อนจากขยะ โครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนแบบครบวงจร จังหวัดหนองคาย กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในช่วงปลายปี 65