นางสาวธิญาดา เมฆพงษ์สาทร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย ไบโอแมส (ABM) เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 66 ปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 ล้านตัน ทั้งจากยอดขายในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากดีมานด์เชื้อเพลิงชีวมวลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คาดว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 1 พันล้านบาท ไปแตะ 3.5 พันล้านบาท หากยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้
ประกอบกับในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทย่อยได้เข้าซื้อกิจการของ บริษัท หอมหอมฟาร์ม จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตชิ้นไม้สับ เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และพร้อมให้ความสำคัญตามกระแสโลกในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)
สำหรับผลงานปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 2,715.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 787.59 ล้านบาท หรือ 40.85% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากความต้องการเชื้อเพลิงชีวมวลที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวลโดยรวมสูงขึ้นตาม และมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของ บริษัท 35.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.09 ล้านบาท หรือ 33.92%
บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ 2,704.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 796.48 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 41.75% เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นตามอุปสงค์ของตลาดที่มากขึ้น รวมถึงสินค้าเชื้อเพลิงประเภทอื่นถีบราคาสูงขึ้น ทำให้ตลาดหันมาให้ความสนใจกับเชื้อเพลิงชีวมวลเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐและเอกชนที่มีเป้าหมายลดการใช้เชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบ
ปริมาณการขายเชื้อเพลิงชีวมวลโดยรวมอยู่ที่ 634.90 พันตัน เพิ่มขึ้น 67.11 พันตัน หรือ 11.82% โดยเฉพาะยอดขายภายในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาที่ 491.06 พันตัน เพิ่มขึ้น 17.22% เนื่องจากปริมาณการขายในสินค้าหลัก ได้แก่ กะลาปาล์ม ไม้สับ และชีวมวลอัดแท่ง ปรับตัวตามความต้องการของตลาดที่สูงขึ้น หลังผู้ประกอบการหันมาให้ความสนใจในสินค้าเชื้อเพลิงชีวมวลเพิ่มมากขึ้น ตามนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิต ส่วนยอดขายต่างประเทศอยู่ที่ 143.84 พันตัน
"ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปริมาณการขายภายในประเทศสูงขึ้นเป็นเกือบ 5 แสนตัน จากอุปสงค์การเชื้อเพลิงชีวมวลขยายตัว รวมถึงการได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการที่ต้องการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนตามนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนคาร์บอนเครดิต ประกอบกับราคาสินค้าเชื้อเพลิงชนิดอื่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้บริษัทฯ มีรายได้เกินเป้าที่วางไว้ในปี 65 ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท และคาดว่าในปี 66 บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายทั้งในและต่างประเทศและมีอนาคตที่สดใสได้อย่างต่อเนื่อง" นางสาวธิญาดา กล่าว