นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ หลังดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยขาดดุล แย่กว่าตลาดคาดว่าจะเกินดุล ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ล่าสุดมาอยู่ที่ 35.30 บาท/ดอลลาร์ กดดันเงินทุนต่างชาติยังคงไหลออก ขณะเดียวกันผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยส่วนใหญ่ออกมาต่ำคาด อาจเห็นการปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายลง
นอกจากนี้นักลงทุนก็มีความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ยาวนานกว่าคาดของธนาคารกลางสำคัญๆ ซึ่งในเดือนนี้ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง
ให้แนวรับไว้ที่ 1,618-1,610 จุด และแนวต้าน 1,630-1,635 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,656.70 จุด ร่วงลง 232.39 จุด หรือ -0.71% , ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,970.15 จุด ลดลง 12.09 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,455.54 จุด ลดลง 11.44 จุด หรือ -0.10%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 27,363.57 จุด ลดลง 81.99 จุด หรือ -0.30%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,849.97 จุด เพิ่มขึ้น 64.03 จุด หรือ +0.32% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,279.14 จุด ลดลง 0.47 จุด หรือ -0.01%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ก.พ.) 1,622.35 จุด ลดลง 5.00 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 80,307.99 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 3,325.70 ลบ. เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(28 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 77.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ก.พ.) อยู่ที่ 6.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.23 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดุลบัญชีเดินสะพัดไทยพลิกขาดดุล
- "กอบศักดิ์" ประเมินเศรษฐกิจไทย ปีนี้โต 3% แม้เสี่ยงเผชิญวิกฤติ Perfect Storm ระลอกสอง แนะเกาะติด 6 ปัจจัยความไม่แน่นอนทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ แต่มองความผันผวนปีนี้ เป็นโอกาสหาจังหวะลงทุนนอกประเทศ ถือยาว 2 ปี รับผลตอบแทนช่วงตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2566 นี้ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว โดยคาดว่าในปี 2566 นี้เศรษฐกิจไทยยังสามารถโตได้อยู่ที่ 3-4% โดยมีแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัว 25.5 ล้านคน ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนจะเติบโต 3-4% การส่งออกสินค้าชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก โดย ธปท.ยังคงประมาณการการส่งออกปีนี้ไว้ที่ 1% แต่ทั้งนี้ จากปัจจัยที่เข้ามาอาจส่งผลให้ทั้งปีการส่งออกขยายตัวติดลบ
- "ต่างชาติ" ขายหุ้นไทย ไม่หยุด ล่าสุดวานนี้ทิ้งอีก 3.39 พันล้าน ส่งผลยอดทั้งเดือนก.พ.สูงถึง 4.35 หมื่นล้าน เหตุผิดหวังผลดำเนินงานต่ำคาด 41% หนักสุดในภูมิภาค ทิ้งกลุ่มปิโตร-พลังงานมากสุด จับตาแรงขายเริ่มชะลอ หลังเงินบาททรงตัวระดับ 35 ต่อดอลลาร์
- รมว.คลัง เผยกำลังใช้ความพยายามผลักดัน "ภาษีขายหุ้น" ให้ทันใช้เดือน พ.ค.นี้ ด้านวงในเผย นายกฯ ยังไม่ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ เรื่องยังคงค้างอยู่ที่ทำเนียบฯ และไม่ทันใช้ในเดือน พ.ค.นี้แน่นอน ยอมรับหากยังเดินหน้าต่อ จะไม่ส่งผลดีต่อคะแนนเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านวงการตลาดทุนขานรับทันที มั่นใจทำให้บรรยากาศตลาดหุ้นดีขึ้น และช่วยดึงเงินทุนจากต่างชาติกลับเข้าไทย
*หุ้นเด่นวันนี้
- SIRI (กสิกรไทย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 2.1 บาท รายงานกำไรไตรมาส 4/65 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.79 พันลบ. เพิ่มขึ้น 422% YoY และ 41% QoQ และทำให้กำไรปี 2565 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.28 พันลบ. กำไรไตรมาส 4/65 สอดคล้องกับที่เราคาดและสูงกว่าของตลาด 8% กิจกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมและ GPM ที่ปรับดีขึ้นอย่างมากหนุนผลงานที่ยอดเยี่ยม
- ERW (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.45 บาท ไตรมาส 4/65 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 235 ล้านบาท หนุนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวฟื้นตัวเร็วกว่าคาดหลังโควิดคลี่คลาย ส่งผลอัตราการเข้าพักโรงแรมขยายตัวได้ดี ส่วน ADR และ RevPar สูงกว่า Pre-Covid แล้ว ขณะที่ Budget Hotel-Hop Inn ฟื้นตาม Domestic Demand ในไตรมาส 1/66 ยังเห็นโมเมนตัมฟื้นต่อเนื่องจาก China Reopening คาดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากขึ้นใน H2/66 ส่วนทั้งปี ททท.คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน ช่วยให้ผลประกอบการพลิกเป็นกำไร ตลาดคาดกำไรปี 66 จะอยู่ที่ 482 ล้านบาท
- ROJNA (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 7.40 บาท งบไตรมาส 4/65 ดีเกินคาดมีกำไรสุทธิ 859 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1,691%qoq และ 79%yoy จากยอดโอนขายที่ดินเร่งตัวขึ้น ธุรกิจไฟฟ้ากลับมาฟื้นตัว จ่ายปันผล 0.30 บาท ให้ Dividend yield 5% XD 3 พ.ค.