นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติแผนขายหุ้น บริษัท ฟิจิตอล สเปซ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (PSD) ซึ่งประกอบธุรกิจเกมและอีสปอร์ต ผ่าน Platform HUBBER ที่ บริษัท อินโนฮับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ OTO ถืออยู่ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของหุ้นทั้งหมด
แผนการขายหุ้น PSD ในครั้งนี้อยู่ระหว่างการหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ในราคาไม่ต่ำกว่าราคาทุน จะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดรับจากการขายหุ้น และมีเงินลงทุนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยาย 2 ธุรกิจใหม่ Ev Bike และ Carbon Credit เพื่อสร้าง New S Curve ให้กับธุรกิจ ผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปี 66 พลิกกลับมามีกำไร
"การตัดสินใจขายเงินลงทุนในธุรกิจเกมในครั้งนี้ ถือเป็นการรองรับแผนการแตกไลน์ 2 ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้าง New S Curve ให้กับบริษัทฯ สอดรับเมกะเทรนด์ ซึ่งในส่วนของธุรกิจ EV Bike คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 66 เป็นต้นไป ส่วนธุรกิจใหม่ Carbon Credit ที่บริษัทฯ เตรียมเข้าลงทุน คาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ"
สำหรับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ทั้ง Call Center และ Contact Center ในปี 65 ฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น อีกทั้งมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการสื่อสารการตลาดบนแพลตฟอร์มเกมส์ออนไลน์ และการแข่งขันกีฬาอีสปอรต ของบริษัทย่อยที่ได้มีการลงทุนในช่วงต้นปี 2565 ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 620.5 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้อื่นๆ) เพิ่มขึ้น 23 ล้านบาท หรือ 3.9% เทียบกับปี 64 และมีกำไรจากการดำเนินงาน 44.8 ล้านบาท แต่เนื่องจากขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียน 139.7 ล้านบาท และมีการตั้งสำรองเผื่อสำหรับสินทรัพย์รวม 20.8 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมผลประกอบการปี 65 ขาดทุนสุทธิ 116.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 65 ถือว่าเป็นปีทองสำหรับธุรกิจหลักของ OTO ในส่วนของ Call Center และ Contact Center หากไม่นับการขาดทุนจากพอร์ตลงทุน เนื่องจากธุรกิจหลักมีกำไรสุทธิสูงถึง 44.8 ล้านบาท เทียบกับในอดีตกำไรสุทธิเฉลี่ยประมาณ 20-30 ล้านบาท/ปี และแนวโน้มในปี 66 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยจะเห็นภาพที่ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 1/65
"แนวโน้มธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและเข้าสู่โหมดการเติบโตใหม่ ตามแผนงานที่วางไว้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เริ่มกลับมาใช้บริการ Call Center และ Contact Center โดยบริษัทฯ มีความพร้อมเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำตลาด ซึ่งทำให้มีโอกาสในการคว้างานใหม่เพิ่มเติม และจากการแตกไลน์ 2 ธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามาพลิกโฉมรายได้และกำไรของบริษัท ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นหลังจากนี้" นายคณาวุฒิ กล่าว