นายวรานนท์ คงปฏิมากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) กล่าวว่า กลยุทธ์ดำเนินธุรกิจปี 66 กลุ่มบริษัทได้วางแผนขยายฐานลูกค้ารายใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยจะทำการตลาดผ่านช่องทาง Direct Sales กว่า 300 ทีม หรือกว่า 1,500 คนทั่วประเทศ รวมถึงช่องทาง Online to Offline (O2O), แพลตฟอร์มบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น E-Marketplace ทั้ง Shopeeและ Lazada รวมถึงช่องทางอื่น ๆ อาทิ โมเดิร์นเทรดและ Dealer กว่า 200 สโตร์ และขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไปได้ในระยะยาว
ในปีนี้กลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขายไส้กรองมากกว่า 50% และมุ่งมั่นพัฒนาสร้างสินค้าที่ใช้นวัตกรรม IOT ในกลุ่ม Water Solution & Lifestyle เพื่อสร้างแบรนด์เครื่องกรองน้ำ "SAFE" ให้เป็น Top of Mind Brand และสร้าง Financial Service package ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ขณะที่บริษัทเตรียมเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บมจ.สบาย คอนเน็กซ์ เทค และเปลี่ยนชื่อย่อเป็น "SBNEXT" เพื่อความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับกลุ่ม SABUY ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายและให้บริการกับผู้บริโภคโดยตรง
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) ของกลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 71.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.98 ล้านบาท หรือคิดเป็น 132.16% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 31.01 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.83% ในปี 2564 เป็น 5.19% ในปี 2565 ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 1,386.73 ล้านบาท
แม้ว่ารายได้จากการขายเครื่องกรองน้ำลดลง แต่รายได้จากการขายไส้กรองรวมถึงกลุ่มธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกและสินเชื่อ Floor Plan เพิ่มขึ้น ประกอบกับกลุ่มบริษัทฯ สามารถบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการบริหารหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการเข้ามาร่วมบริหารของกลุ่ม SABUY บริษัทจะสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างก้าวกระโดดไปกับ Ecosystem ของกลุ่ม SABUY
"แม้ว่าบริษัทฯ จะได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการจัดโครงสร้างทีมขาย และช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการใช้ SABUY Ecosystem ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และการ cross-sell ระหว่างบริษัทต่าง ๆ ในกลุ่ม โดยมีเป้าหมายรายได้ในปี 66 ที่ 4,000 ล้านบาท อีกทั้งยังได้มีการบริหารจัดการต้นทุน ค่าใช้จ่าย ตามกลุ่มธุรกิจ โดยยึดในสมรรถภาพหลักของกลุ่มบริษัทฯ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบน้ำ การจัดการน้ำ การเป็นผู้ผลิตเครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐาน การมีเครือข่ายในการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย" นายวรานนท์ กล่าว