นายชนน วังตาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มบจ. เอคิว เอสเตท (AQ) กล่าวว่า แผนงานปี 66 บริษัทจะเน้นพัฒนาศักยภาพให้กับทุกกลุ่มธุรกิจผ่านมุมมองและเทคนิคการบริหารของผู้บริหารและทีมงานรุ่นใหม่ เพื่อสร้างโอกาสทำรายได้และการเติบโตให้แก่บริษัท โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างยอดขาย ควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงปรับโครงสร้างภายในองค์กรเพื่อสร้างผลงานที่ดียิ่งขึ้นในทุกๆปีอีกด้วย
ปัจจุบัน AQ ดำเนินธุรกิจอยู่ 5 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.ธุรกิจโรงแรม ซึ่งภายใต้การบริหารจัดการของ Aquarius Group จำนวนทั้งสิ้น 4 แห่ง คือ โรงแรม The Tarna Align Resort เกาะเต่า, โรงแรม ShaSa Resort & Residences เกาะสมุย, โรงแรม Malibu Resort & Beach Club เกาะสมุย และ โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพมหานคร
2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมุ่งลงทุนและพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์แนวราบ 3.ธุรกิจพลังงานที่ลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกร่วมกับ บริษัท กรีนเอิร์ธ พาวเวอร์ ไทยแลนด์ จำกัด (GEP) และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง 4.ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัท เอ็ม เอส ซี ดับเบิลยู จำกัด (MSCW) และ บริษัท พิโก โซลูชั่นส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (PICO) ซึ่งได้เข้าลงทุนเพิ่มเติมไปเมื่อต้นปีนี้ในสัดส่วน 10.80% และ 5.ธุรกิจกัญชง-กัญชา ที่ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท อีโกรนิกซ์ จำกัด (EGRONIX)
ขณะที่นายวรวุฒิ ไหลท่วมทวีกุล กรรมการบริหาร AQ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปี 65 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 991.63 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 128.46 ล้านบาท พลิกจากปี 64 ที่มีผลขาดทุนถึง 495.11 ล้านบาท
"ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 65 นับว่าเป็นสัญญาณดีต่อการเติบโตของ AQ และบริษัทย่อยในเครือ โดยรายได้หลักมาจาก ธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์แนวราบ คิดเป็น 44.90% ของรายได้รวม ธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 15.08% และ ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งแต่บริษัทเข้าลงทุนได้สร้างรายได้ที่คุ้มค่าต่อการลงทุนแล้วเช่นกัน ด้านธุรกิจพลังงานทางเลือก ยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีในรูปแบบของเงินปันผลและมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนนี้ส่งผลให้ AQ ได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น และยังเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทได้เป็นอย่างดี"