นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ประกาศโรดแมปนำทัพสร้างรายได้สะสมรวมในช่วง 5 ปี (ปี 66-70) ทะยานสู่ 1.5 แสนล้านบาท ผ่านการขับเคลื่อนบนยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond เติบโต อย่างมีคุณภาพ
"SC จะสร้างการเติบโตขององค์กรควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับคนรอบข้าง เราจะเติบโตไปพร้อมกับคนรอบข้างเรา เพราะการเติบโตไม่ใช่มีเพียงเครื่องยนต์เดียวที่เป็นธุรกิจหลักของ SC ในการสร้างรายได้และกำไรเพื่อทำให้องค์กรเติบโต แต่มีหลายเครื่องยนต์ที่เข้ามาช่วย โดยเฉพาะธุรกิจที่เราโฟกัสเข้ามาลดความผันผวนและความไม่แน่นอน ได้แก่ ออฟฟิศ โรงแรม และคลังสินค้า ซึ่งเราจะส่งคุณค่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความเชื่อมั่นจะสามารถสร้างกำไร ที่จะเป็นเชื้อเพลิงส่งต่อให้เรากลับมาสร้างคุณค่าต่อได้" นายณัฐพงศ์ กล่าว
แผนงานช่วงปีแรกของโรดแมป คือ ปี 66 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 3 หมื่นล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อนที่ 2.44 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 65% และคอนโดมิเนียม 35% พร้อมวางเป้ารายได้ 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 16% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.15 หมื่นล้านบาท
บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ 25 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 22 โครงการ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีบ้านหรูแบรนด์ใหม่ "95E1" เซกเมนต์ Ultimate Luxury ราคาเริ่มต้นสูงที่สุดเท่าที่เคยเปิดขายมา คือ 100 ล้านบาท จำนวนจำกัดเพียง 10 ยูนิต มูลค่าโครงการ 970 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็จะสร้างบ้านตอบโจทย์ลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มราคา ซึ่งในปีนี้จะเปิดบ้านขายในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทไปจนถึงมากกว่า 150 ล้านบาท ด้วยการเปิดตัวบ้านซีรีส์ใหม่ของแต่ละ Sub-brand เพื่อลงแข่งขันครองความเป็นผู้นำบ้านเดี่ยว
ส่วนคอนโดมิเนียมวางแผนเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเปิดแบรนด์เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เน้นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางเป็น Living Solutions เพื่อประสบการณ์การพักอาศัยที่ดีขึ้นในสังคมที่เน้นความยั่งยืน บน 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม มูลค่าโครงการ 5.5 พันล้านบาท ราคาเริ่ม 2 ล้านต้น เป็น Segment ใหม่ และทำเลที่สองคือ เกษตร-ศรีปทุม ตรงข้าม ม.ศรีปทุม ติดรถไฟฟ้า มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท เน้นงานดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อคนเมืองรุ่นใหม่
นอกจากนี้ยังมีคอนโด SCOPE ประสานมิตร เจาะกลุ่มลูกค้า International Premium ที่ให้ความสำคัญกับทั้งคุณภาพและดีไซน์ ในระดับ World-class ใช้ชีวิตในแบบ Live the Finest Life หรือชีวิตที่สุขสบายและสวยงามพร้อมไปด้วยบริการระดับ Premium ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2.6 พันล้านบาท
SC ยังเปิดตัวเทคโนโลยี Morning Coin เชื่อมต่อลูกค้ากับโลกแห่งสิทธิพิเศษแบบเหนือชั้นด้วยนวัตกรรม Blockchain โดยมีเป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และมีความมั่นใจปลอดภัยในคอมมูนิตี้ที่ดีของ "รู้ใจคลับ" พร้อมใช้งานกลางปี 66 พร้อมติดตั้งชุดเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยในบ้านและคอนโดทั้งหมด 24 รายการ ให้กับลูกค้า SC ตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 5,000 ครัวเรือนในปีนี้
นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทจะเดินหน้าลงทุนอย่างดุดัน โดยตั้งงบลงทุนรวมสูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 80% จะลงทุนในธุรกิจหลักซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ส่วนอีก 20% จะลงทุนในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เข้ามาเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสนับสนุนให้องค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
แผนงานสร้างรายได้ประจำในปีนี้จะเปิดตัวโรงแรม YANH ราชวัตร รับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกภายใต้อนเซ็ปต์ "Workcation Hotel" รองรับวิถี Remote Working ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังโควิด-19 พร้อมเปิดให้เข้าพักแล้วในเดือน มี.ค.66 พร้อมพัฒนาแบรนด์โรงแรมใหม่บนถนนสุขุมวิท 29 มูลค่าลงทุน 2.5 พันล้านบาท และขยายธุรกิจโรงแรมในพัทยาคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 69 เพื่อไปให้ถึงเป้ารวม 3 ปีมีโรงแรม 1,000 ห้อง
และปัจจุบัน SC บริหารพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่ารวม 120,000 ตารางเมตร และหลังจากการประกาศความร่วมมือกับบริษัท Flash Express ไปเมื่อปี 65 แล้ว SC วางแผนขยายธุรกิจคลังสินค้า โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ Warehouse ให้ได้ 1 ล้านตารางเมตรภายในปี 73