หุ้น HANA ราคาร่วง 4.13% มาอยู่ที่ 52.25 บาท ลดลง 2.25 บาท เมื่อเวลา 9.57 น. โดยเปิดตลาดที่ 51.00 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า การประชุมร่วมกับผู้บริหาร บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) โทนเป็นลบ ผู้บริหารให้ข้อมูลว่ารายได้ IC ในครึ่งแรกของปี 66 จะหดตัวราว 15-18 y-y จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอกระทบกลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์และมือถือ ขณะที่ Gross Margin เราคาดหดตัวจากไตรมาส 4/65 เบื้องต้นประเมินกำไรไตรมาส 1/66 หดตัว -9% q-q, 26% y-y
ส่วนประเด็น Tesla จะลดการใช้ SiC ลง ผู้บริหารยังมั่นใจว่าคงเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถใช้กับสินค้ากลุ่มอื่นนอกจากยานยนต์ได้ แต่มีการปรับลดเป้าการเติบโตของ SiC ลงจากเดิม 10-20% เรายังคาดกำไรปกติปี 66 เติบโต +1% y-y ประเมินราคาเป้าหมาย 60 บาท แนะนำ "ถือ"
ขณะที่ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ปรับลดคำแนะนำ HANA เป็น Fully Valued (เดิมถือ) ให้ราคาพื้นฐาน 45 บาท (เดิม 53 บาท) โดยอิงกับ P/E ปีนี้ที่ 18 เท่า (ค่าเฉลี่ย 5 ปี) เนื่องจากปี 66 ยังเผชิญหลายความท้าทาย ได้แก่ จะขออนุมัติเพิ่มทุนในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเป็น General mandate จำนวนหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 80.5 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) ในราคาเหมาะสมโดยมีส่วนลดจากราคาตลาดไม่เกิน 10% วัตถุประสงค์ คือ เพื่อใช้ในการลงทุนต่อยอดธุรกิจ
โครงการหลักที่อยู่ระหว่างพัฒนาและลงทุน คือ ซิลิกอนคาร์ไบด์ ซึ่งต้องลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่ม โดยจะใช้เงินลงทุนในปี 23F ประมาณ 90-120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผู้บริหารยังไม่ตัดสินใจว่าจะกู้ยืมหรือใช้เงินจากการเพิ่มทุน (ในประมาณการเรายังไม่ได้ใส่เรื่องการเพิ่มทุนเข้าไป)
ด้านยอดขายเซมิคอนดัคเตอร์ในตลาดโลกลดลง 18%YoY ในเดือน ธ.ค.65 ส่วนปี 66 คาดว่าจะหดตัว 4% (คาดการณ์โดย World Semiconductor Trade Statistics (WSTS) เพราะอุปสงค์อ่อนแอลง โดยเฉพาะในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับสมาร์ทโฟนปี 66 คาดว่าจะลดลง 1% จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้ผู้บริโภคเลื่อนการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนออกไป
ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 ลง 15% สะท้อนค่าเงินบาทเฉลี่ยที่แข็งขึ้นจากปี 65, รายได้และมาร์จิ้นลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 66 ลดลง 4% แล้วค่อยไปเติบโต 17% ในปี 67 ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวดีขึ้น