(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามตปท.หลังเฟดยังเร่งขึ้นดอกเบี้ย Bond Yield ดีดกลับ-บาทอ่อนกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 8, 2023 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่เปิดมาปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังเมื่อคืนนี้ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมายังคงเดินหน้าในการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ เพื่อลดเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี (Bond Yield) ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้น

ขณะเดียวกันค่าเงินบาทเช้านี้เปิดมากลับมาอ่อนค่ามาที่ 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อีกครั้ง อาจจะกดดันต่อกระแสเงินทุนไหลออกได้ และราคาน้ำมันดิบยังมีการย่อตัวลงมา ทำให้กดดันหุ้นพลังงานได้ ซึ่งมีผลกดดันต่อดัชนีด้วยเช่นกัน

มองว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากปัจจัยของการที่เฟดยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังต้องติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐเดือนก.พ.ที่จะออกในปลายสัปดาห์นี้ว่าจะเป็นอย่างไร

โดยให้แนวรับ 1,605-1,610 จุด แนวต้าน 1,625-1,630 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,856.46 จุด ร่วงลง 574.98 จุด หรือ -1.72%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,986.37 จุด ลดลง 62.05 จุด หรือ -1.53% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,530.33 จุด ร่วงลง 145.40 จุด หรือ -1.25%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 28,237.21 จุด เพิ่มขึ้น 71.95 จุด หรือ +0.25%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,256.89 จุด ลดลง 277.59 จุด หรือ -1.35% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,271.88 จุด ลดลง 13.22 จุด หรือ -0.40%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 มี.ค.)1,618.51 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด (+0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 57,540.88 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 1,156.14 ลบ. เมื่อวันที่ 7 มี.ค.66
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(7 มี.ค.)ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 77.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มี.ค.) อยู่ที่ 7.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.09 อ่อนค่าจากวานนี้หลังประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.
  • สนค. เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ก.พ.66 ว่า เท่ากับ 108.05 เทียบกับ ม.ค.66 ลดลง 0.12% แต่เทียบกับเดือน ก.พ.65 เพิ่มขึ้น 3.79% ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการชะลอตัวของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อาหารบางประเภท โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปและอาหารสด ประกอบกับฐานราคาที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อเดือน ก.พ.ปี 65 อยู่ในระดับสูงทำให้เงินเฟ้อไม่ขยายตัวมากนัก และส่วนดัชนีเงินเฉลี่ย 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ปี 66 เพิ่มขึ้น 4.40% เทียบช่วงเดียวกันของปี 65 ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก ดัชนีอยู่ที่ 104.17 เพิ่มขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.66 และเพิ่มขึ้น 1.93% เทียบเดือน ก.พ.65
  • ท่องเที่ยวไทย Q1 ฟื้นตัวเร็วเกินคาด เที่ยวบินเข้าไทยเพิ่มกว่า 1 ล้านที่นั่ง รวมเป็น 7.8 ล้านที่นั่ง ททท.รุก "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" ชู 4 กิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายใต้งบอัดฉีด 3,946 ล้านบาท มั่นใจปี 2566 มีลุ้นต่างชาติแตะ 30 ล้านคน โรงแรมตีปีกนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าไทย ดันค่าห้องพักพุ่ง
  • โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2566 มีมติเห็นชอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดแนวทางกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เนื่องจากในปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวให้บริการแก่ประชาชนในวงกว้าง โดยมียอดธุรกรรมสูงถึง 12.4% ของหนี้ครัวเรือนและมีแนวโน้มการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง
  • สินเชื่อดิจิทัลคึกคัก รายใหม่ทยอยยื่นขออนุญาต ธปท. เผยยอดปล่อยสินเชื่อคนตัวเล็ก 2.28 ล้านราย ชี้ทิศทางโตต่อเนื่อง "กสิกรไทย" ปลื้ม "K PAY LATER" เข้าถึงกลุ่มเข้าไม่ถึงธนาคารกว่า 5 แสนคน พร้อมขยายวงเงินให้ลูกค้ามีวินัย "กรุงศรีฯ" เผยเห็นสัญญาณเจ้าของเงินทุน-เจ้าของฐานข้อมูลขนาดใหญ่จับมือลงสนามชิงเค้ก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • FSMART(ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 13.00 บาท เดินหน้าขยายตู้เต่าบิน-กิ้งก่า ตั้งงบลงทุน 1-1.5 พัน ลบ.แนวโน้มรายได้ปี 2566-2568 มีโอกาสเติบโตรับการลงทุนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เป้า 3 ปี ตั้งมีเต่าบิน 2 หมื่นตู้ กิ้งก่า 5 พันตู้ พร้อมบริการยานยนต์ EV ยอดขายของตู้เต่าบินและ Transaction ตู้บุญเติมมีโอกาสเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 2/66 ตามฤดูกาล ล่าสุด ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมีตู้เต่าบินอยู่ที่ 4942 ตู้ และมียอดขายเฉลี่ย 46 แก้วต่อวัน โดยมีเป้าหมายที่ 50 แก้วต่อวัน (มีโอกาสถึง) Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2566-2567 ที่ 425 ลบ. และ 478 ลบ. +41%YoY, +12%YoY
  • SCGP (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 59.00 บาท แนวโน้มผลประกอบการ ไตรมาส 1/66 ฟื้นตัว QoQ แบบค่อยเป็นค่อยไป หนุนจากรายได้และอัตรากำไรขึ้นต้นหลังจีนยกเลิกมาตรการ Zero-Covid และมีการเปิดประเทศ ส่งผลบวกต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาค รวมถึงต้นทุนพลังงานและกระดาษที่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 66 ที่ 1.6 แสนล้านบาท +10%YoY มาจากการเติบโคในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม รวมถึงตั้งเป้าขยายกิจการต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาท ทั้ง Organic growth และการ M&P (Merger & Partnership) โดตลาดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท +36%YoY
  • BDMS (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 37 บาท เป็นหุ้น Defensive เหมาะสำหรับพักเงินในภาวะที่ตลาดผันผวน แนวโน้มกำไรยังเป็นขาขึ้นคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%yoy

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ