นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอแนะรัฐบาลเร่งเตรียมแนวทางเพิ่มแรงส่งเศรษฐกิจการไว้ให้พร้อมก่อนยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อรับมือกับโอกาสการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากอาจจะต้องใช้เวลานานไปจนถึงเดือน ส.ค.66 กว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่เข้าขับเคลื่อนงาน และยังมีสิทธิว่างบประมาณปี 67 อาจต้องล่าช้าออกไป ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ประธาน FETCO กล่าวว่า จากไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ในเบื้องต้นเมื่อจะมีการยุบสภาภายในเดือนนี้ก็จะเข้าสู่การเลือกตั้งอีก 2 เดือนหลังจากนี้ คือภายในเดือน พ.ค.66 ซึ่งกว่าที่จะนายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลชุดใหม่ก็น่าจะต้องใช้ระยะเวลาซักพัก ดังนั้น ในช่วงไตรมาส 2-3/66 ประเทศไทยจะไม่มีความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากนัก การใช้เงินงบประมาณของรัฐจะจำกัด
เมื่อเราเห็นว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มซบเซาที่จะมีผลกระทบมาถึงประเทศไทย เราก็คงต้องเตรียมการให้เศรษฐกิจมีแรงขับเคลื่อนมากขึ้น ภาคสำคัญคือการท่องเที่ยว รัฐบาลควรจะลงทุนกับภาคนี้เพิ่มเติม แม้ว่าขณะนี้การท่องเที่ยวจะดีอยู่แล้วแต่ก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้อีก ด้วยการให้งบประมาณกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปเร่งทำการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศที่เป็นเป้าหมาย เช่น จีน และประเทศอื่น ๆ
รวมถึงการใช้มาตรการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างสะดวกขึ้น เช่น ฟรีวีซ่า ลดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการเข้าเมือง เพื่อทำให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะภาคท่องเที่ยวจะเป็นกลไกหลักที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเดินต่อไปได้ในช่วงดังกล่าว
อีกภาคหนึ่ง คือ การลงทุนจากต่างประเทศที่ได้เริ่มเข้ามากันแล้ว และยังมีกลุ่มที่ให้ความสนใจอย่างยิ่งที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แม้จะไม่ได้มีเม็ดเงินเข้ามาในทันทีทันใด แต่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับบรรยากาศทางเศรษฐกิจ จึงควรสร้างความชัดเจนเรื่องนโยบายลงทุนก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งให้นักลงทุนต่างชาติเห็นภาพว่าประเทศไทยจะหมุนไปทางไหน โดยเฉพาะกรอบนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้เห็นภาพระยะยาวว่ามาจากบีโอไอไม่ใช่รัฐบาล
ขณะที่เมื่อการส่งออกของไทยมีปัญหา เงินบาทจึงไม่ควรแข็งค่าเกินไป แม้ว่าขณะนี้ค่าเงินบาทจะอ่อนมาที่ 35 บาท/ดอลลาร์แล้ว แต่ก็ควรอ่อนลงมาอีก เพื่อให้การส่งออกที่มูลค่าไม่ได้เมื่อตีเป็นเงินบาทออกมายังอยู่ในระดับที่ดี ผู้ส่งออกสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งจะช่วยภาคเกษตรและการท่องเที่ยวได้รับผลดีด้วย จะทำให้เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้าได้ รวมถึงโครงการสำคัญที่รออยู่ต้องอนุมัติให้หมดก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง
นายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งคือเมื่อกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ในเดือน ส.ค.66 ดังนั้น ในไตรมาส 4/66 อาจมีปัญหาเรื่องงบประมาณปี 67 ล่าช้า ก็ต้องใช้ไปงบไปพลางก่อนอาศัยงบเดิมมาดำเนินการ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รัฐบาลชุดนี้จึงต้องเตรียมการให้เหมาะสมในการเดินไปข้างหน้า อีกทั้งผลพวงจากเศรษฐกิจโลกซบเซาจะกระทบหนักกับ SME และรายย่อย จึงควรเตรียมสภาพคล่องไว้ให้ด้วย