EASTW เตรียมแผนรับมือมั่นใจปริมาณน้ำสำรองเพียงพอสำหรับหน้าแล้งปีนี้

          บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) ยืนยันว่า มีปริมาณน้ำพอเพียงในการสูบส่งให้แก่ผู้ใช้น้ำทั้งในพื้นที่จ.ระยอง ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ในช่วงหน้าแล้งปีนี้ แม้ว่าสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกมีแนวโน้มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ของกรมชลประทานลดลงอย่างต่อเนื่อง
          ณ สิ้นเดือนมี.ค.51 ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกรายและหนองปลาไหล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักมีปริมาณน้ำคงเหลือ 50% ของปริมาตรอ่างฯ สูงกว่าปริมาณน้ำคงเหลือในช่วงเดียวกันของปี 48 กว่า 44 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่อ่างเก็บน้ำประแสร์ มีปริมาณน้ำ 69% ของความจุอ่าง รวมถึงอ่างเก็บน้ำอื่นๆ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ บางพระ หนองค้อ มีปริมาณน้ำรวม 30-43% ของความจุอ่างฯ 
          ปัจจุบัน อีสท์ วอเตอร์ สูบส่งน้ำให้แก่ผู้ใช้น้ำทั้ง 3 จังหวัดในอัตราประมาณ 620,000 ลบ.ม.ต่อวัน หรือประมาณ 18.6 ล้าน ลบ.ม.ต่อเดือน ดังนั้น แม้จะเกิดฝนทิ้งช่วงยาวนานเช่นเดียวกับปี 48 บริษัทก็ยังจะมีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำหลักเพียงพอที่จะให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง 
          นายเจริญสุข วรพรรณโสภาค ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนโครงการ EASTW กล่าวว่า บริษัทได้เริ่มดำเนินการมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งแล้วด้วยการเริ่มใช้น้ำสำรองจากอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรักษาปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำดอกกรายและหนองปลาไหล ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพียงพอต่อการใช้น้ำถึงฤดูแล้งของปี 52 
          ทั้งนี้ หากสิ้นเดือนเมษายน ปริมาณน้ำรวมของอ่างเก็บน้ำดอกกรายและหนองปลาไหลลดลงต่ำกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. ก็มีความจำเป็นต้องผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ ซึ่งการก่อสร้างเส้นท่อเชื่อมอ่างเก็บน้ำประแสร์-หนองปลาไหลจะแล้วเสร็จทันกันพอดี 
          "มาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งดังกล่าวนี้ เพื่อรักษาปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำดอกกรายและหนองปลาไหล ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพียงพอต่อการใช้น้ำถึงฤดูแล้งของปี 52"นายเจริญสุข กล่าว 
          นอกจากนั้น อีสท์ วอเตอร์ ยังได้ติดตั้งแพสูบน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งสามารถสูบส่งน้ำให้แก่การประปาชลบุรี (โรงกรองน้ำบางพระ 2) ได้ในอัตรา 40,000 ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำขาดในพื้นที่ชลบุรีตอนเหนือได้ระดับหนึ่ง และในปลายปี 51 จะติดตั้งแพสูบน้ำเพิ่มอีก 1 ชุดในอ่างเก็บน้ำบางพระ มีกำลังการสูบส่ง 100,000 ลบ.ม.ต่อวัน เพื่อสูบส่งน้ำเข้าระบบท่อหนองค้อ-แหลมฉบัง เสริมศักยภาพการส่งน้ำให้ทันกับการเจริญเติบโตของชุมชนและความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ชลบุรีได้อย่างทั่วถึง