นางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี (DEXON) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง DEXON เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ เตรียมที่จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน หรือโรดโชว์ เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 123.18 ล้านหุ้น โดยจะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน 5 จังหวัดประกอบไปด้วย จังหวัดระยองในวันที่ 10 มี.ค.66 จังหวัดขอนแก่นในวันที่ 13 มี.ค.66 จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 14 มี.ค.66 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในวันที่ 15 มี.ค.66 และปิดท้ายการนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 17 มี.ค.66 โดยบริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ ได้เตรียมข้อมูลธุรกิจซึ่งมีความแข็งแกร่ง ซึ่ง DEXON เป็นผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรม และสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบโครงสร้าง และอุปกรณ์การผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม พลังงาน ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ ซึ่ง DEXON มีทีมผู้เชี่ยวชาญ และทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ รวมถึงให้บริการด้วยมาตรฐานทางเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยที่บริษัทสามารถพัฒนาขึ้นเอง ได้รับการยอมรับ และได้รับใบรับรองมาตรฐานต่างๆ จากหน่วยงานรับรองระบบในระดับสากล โดยมีรูปแบบการให้บริการตามโครงสร้าง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย 1. การบริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Advance Inspection Technology) 2. การบริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน (Conventional Inspection Technology) 3. การบริการฝึกอบรมด้านการตรวจสอบ (Training Services) 4. การให้บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม ประกอบ ติดตั้งและซ่อมบำรุง (Engineering design, Assembly, Installation and Maintenance Service) ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ (ทวีปยุโรป) รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยเน้นให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง (Smart Pigging Technology) ที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะการตรวจสอบรอยแตกขนาดเล็กในระบบท่อส่งที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีสูงที่บริษัทพัฒนาขึ้น (Hawk Pipeline Crack Detection and Measurement System), ลงทุนในงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม เช่นการเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ, การตรวจสอบระบบท่อส่งเพื่อรองรับการแปลงไปสู่การใช้งานของก๊าซไฮโดรเจน (Hydrogen Energy Conversion) ที่จะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในระบบท่อส่งจากเดิมเป็นน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เป็นการขนส่งก๊าซไฮโดรเจน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage : CCS) เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับบริษัท ในขณะเดียวกัน DEXON ยังมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจเพื่อขยายการให้บริการ และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรได้อย่างครอบคลุม โดยจัดตั้งบริษัทย่อยได้แก่
1. บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี พีทีอี ลิมิเต็ด (DTS) ให้บริการลูกค้าในประเทศสิงคโปร์ และประเทศข้างเคียง
2. บริษัท เด็กซ์ซอน เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด (DTC) ให้บริการการฝึกอมรบเพื่อส่งเสริม และยกระดับความรู้ความสามารถแก่บุคลากรทั้งภายใน และภายนอกบริษัท
3. บริษัท เด็กซ์ซอน เมคคานิคอล โซลูชั่นส์ จำกัด (DMS) ให้บริการงานออกแบบทางวิศวกรรม งานประกอบ งานโครงสร้าง และงานให้บริการบุคลากรทางด้านเครื่องกล และซ่อมบำรุงทั้งในส่วนงานท่อ และโครงสร้าง ในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม และปิโตรเคมี
4. บริษัท ดาคอน ยุโรป บีวี (DEBV) (อยู่ระหว่างเปลี่ยนชื่อจาก ดาคอน เป็น เด็กซ์ซอน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/66) จัดตั้งในเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้การดำเนินงานครอบคลุมลูกค้าในแถบอเมริกาใต้ และลูกค้าในกลุ่มยุโรป ซึ่งได้รับประโยชน์ทางภาษีตามที่กำหนดไว้ในสัญญาว่าด้วยการเก็บภาษีซ้ำซ้อน (Double Tax Treaty) โดยเน้นการให้บริการการตรวจสอบท่อโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Advance Inline Inspection) "เรามีความพร้อมอย่างยิ่งในการเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน ซึ่งด้วยพื้นฐานของธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง และโอกาสในการเติบโตในอนาคต ทำให้เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้ง 5 จังหวัด และทั้ง 5 จังหวัดล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับนักลงทุนได้อย่างแน่นอน" นางมัลลิกากล่าว นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า DEXON เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 123,183,200 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท คิดเป็น 25.85% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ โดยภายหลังได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ รวมถึงเดินทางนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนเรียบร้อยแล้ว จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ DEXON เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ผลประกอบการของ DEXON ในปี 63-65 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย และบริการ 438.97 ล้านบาท 433.46 ล้านบาท และ 608.51 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 11.04 ล้านบาท 18.15 ล้านบาท 105.15 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งรายได้ในปี 65 เพิ่มขึ้น 175.04 ล้านบาท เติบโต 40.38% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 64 และมีกำไรสุทธิในปี 65 เพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท เติบโต 479.33% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 64 เนื่องจากลูกค้าต่างประเทศเป็นหลักตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายและบริษัทสามารถเดินทางไปให้บริการในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่เผชิญวิกฤตโควิด-19 มาตั้งแต่ปี 63