SET ปิดวันนี้ที่ 1,599.65 จุด ลดลง 14.57 จุด (-0.90%) มูลค่าการซื้อขาย 49,261.04 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงแรงตามตลาดต่างประเทศ โดยทำระดับสูงสุด 1,609.10 จุด และต่ำสุด 1,596.44 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 388 หลักทรัพย์ ลดลง 1,213 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 398 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับฐานลง เนื่องจากความกังวลธนาคารเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) จะเพิ่มทุน สะท้อนว่าแบงก์เริ่มมีปัญหาการปล่อยกู้ให้กับสตาร์ทอัพ ทำให้เพิ่มปัจจัยลบใหม่เข้ามาในตลาด จากเดิมที่ตลาดกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ก็มีควมเสี่ยงเรื่องเครดิตแบงก์ ซึ่งไม่รู้ว่าผลกระทบใหญ่แค่ไหน จึงมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง หุ้นปรับตัวลงค่อนข้างแรง ตลาดหุ้นไทยก็หนีไม่พ้น เงินทุนต่างชาติก็ไหลออกเพื่อลดความเสี่ยงการลงทุน
นอกจากนี้รอลุ้นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าตัวเลขจะสูงขึ้น และรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือนก.พ. ที่จะประกาศในวันอังคารหน้า โดยตลาดคาด 6.2% ชะลอจากเดือนม.ค.ที่ 6.4%
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์ (13-14 มี.ค.) คาดว่าตลาดจะไม่ไปไหนไกล เพราะรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ หากเป็นไปตามที่ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะชะลอตัวลงก็จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นได้ และปัจจัยในประเทศ หากมีการประกาศยุบสภาก็เป็นปัจจัยบวกเข้ามา เพราะจะมีความชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะไม่เลื่อนออกไป
ให้แนวรับที่ 1,590 จุด แนวต้านที่ 1,620 จุด โดยในวันพุธที่ 22 มี.ค.มีประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,757.99 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,662.24 ล้านบาท ปิดที่ 992.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,552.78 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
TU มูลค่าการซื้อขาย 1,503.32 ล้านบาท ปิดที่ 14.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,501.25 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท