นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอกเดค-คอน (BKD) เปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์ของบริษัทในปีนี้จะเน้นการเติบโตจากธุรกิจตกแต่งภายใน ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และต่อยอดธุรกิจจากพันธมิตรที่เข้ามาถือหุ้นของบริษัท โดยในส่วนของกลุ่ม บมจ.เจมาร์ท (JMART) โปรเจ็คตแรกที่จะร่วมมือกันก็คือ โครงการตกแต่งห้องผู้สูงอายุ ของบมจ. เจแอสเสท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขึ้นห้องตัวอย่าง และในเร็วๆ นี้ จะมีโปรเจคร่วมกันอีกประมาณ 1-2 โปรเจค เช่น การนำเอาสินทรัพย์ NPA ของ บมจ.เจเอ็มที ในทำเลที่มีศักยภาพมาปรับปรุงให้พร้อมขายรับดีมานด์บ้านมือสอง
ส่วนภาพรวมของธุรกิจตกแต่งภายในมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องหลังจากเปิดประเทศ ทั้งงานตกแต่งใหม่ งานรีโนเวท งานส่วนขยาย กลุ่มที่โดดเด่นยังคงเป็นกลุ่มโรงแรมและกลุ่มโรงพยาบาล โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมนั้น ลูกค้ารายใหญ่ที่ไว้วางใจและให้ความเชื่อมั่นใช้บริการ BKD อย่างต่อเนื่องคือกลุ่ม บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ซึ่งปัจจุบัน BKD อยู่ระหว่างรีโนเวทโรงแรมในกลุ่ม AWC หลายแห่ง นอกจากนี้ยังรับงานตกแต่งโรงแรมของกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ่งส์ (BTS) ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เข้ามาถือหุ้นใน BKD
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 1 พันล้านบาท และล่าสุดได้ยื่นประมูลงานภาครัฐและภาคเอกชนไปแล้วมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท คาดหวังว่าจะได้รับส่วนแบ่งงานประมูลดังกล่าวประมาณ 30-50% และภายในปีนี้คาดว่าจะมีงานให้เข้าร่วมประมูลอีกหลายพันล้าน ทำให้บริษัทมั่นใจว่าปีนี้ Backlog มีโอกาสขึ้นมาแตะที่ระดับ 2 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าภาครัฐ 50 % และเอกชน 50%
"ปีนี้งานตกแต่งภายในคึกคักมาก มีโครงการออกมาให้ประมูลตลอดทั้งปี ทั้งงานรีโนเวทงานตกแต่งใหม่ งานตกแต่งบ้านเศรษฐีผลตอบรับก็ดีมาก มีงานเข้ามาตลอด แถมเรายังได้พันธมิตรอย่างกลุ่มเจมาร์ท เข้ามาเสริม ยิ่งทำให้ BKD มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง "นางนุชนารถ กล่าว